ในฐานะสื่อที่ทำข่าวคลุกคลีกับ “กระทรวงพาณิชย์” มานาน ก็ขอแสดงความ “ดีใจ” ที่ “กระทรวงพาณิชย์” มีรัฐมนตรีมาใหม่ ถึงสองคน

หนึ่ง “นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์”

สอง “นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์”

ก็ได้แต่หวังว่า กระทรวงพาณิชย์ ที่เปลี่ยน “หัวหน้าทีม” ใหม่แล้ว จะมีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้น ให้รู้สึก “ว้าว” ได้บ้าง

ที่เขียนแบบนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่า คนเก่าที่เพิ่งไป อย่าง “นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” กับ “นายนภินทร ศรีสรรพางค์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์” ไม่มี “ผลงาน”

ทั้งสองท่านที่เพิ่งพ้นตำแหน่งไป มีผลงานฝากไว้มากมาย

สรุปเรื่องที่เด่น ๆ ก็เรื่องส่งออก เดือน พ.ค.2568 ส่งออกมูลค่า 31,044.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 18.4% มูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ รวม 5 เดือน ปี 2568 (ม.ค.–พ.ค.) มูลค่า 138,202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 14.9%

เรื่อง FTA ก็มีการลงนามกรอบไทย–เอฟตา เป็นฉบับแรกกับยุโรป FTA ไทย–ภูฏาน และได้เร่งเจรจากรอบไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ให้จบในปีนี้



มีการเร่งรัดปราบปรามนอมินี สินค้าด้อยคุณภาพ ลดภาระค่าครองชีพ ด้วยการลดราคาสินค้าช่วงเทศกาลสำคัญ ทั้งปีใหม่ เปิดเทอม และผ่านงานธงฟ้า ผลักดันไทยเป็น Food Storage ของโลก ยกระดับ Thai SELECT เทียบชั้นมิชลิน สตาร์ สร้าง Thailand Brand ให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับระดับโลก จัดงานแฟร์หลายงานล้วนประสบความสำเร็จ ยอดขายถล่มทลาย

ส่วนสินค้าเกษตร ก็มีหลายผลงาน ที่เห็นชัด ๆ ก็ เปิดเสรี “การค้าข้าว” เปิดโอกาสให้รายย่อยส่งออกได้ ผลักดันการส่งออก “ข้าว-มันสำปะหลัง” ที่แม้ยอดส่งออกข้าว 5 เดือนไม่สู้ดีนัก แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย มีหวังหนักกว่านี้ แต่มันสำปะหลัง วิ่งฉิวติดลมบน ยอดขายพุ่งกระฉูด

แต่ก็มีหลายเรื่อง “น่าผิดหวัง” สินค้าเกษตรหลายตัว ราคาไม่ดีนัก หรือ “ผลไม้” ที่ “แผนดี-นโยบายดี” แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แล้วที่ผ่านมา ทำอะไรกันอยู่ จนทำให้ปีนี้ราคาขายตกต่ำ เกษตรกรบ่นกันอุบ แม้กระทั่งตอนนี้ หลายชนิดยังไม่ฟื้น

ถ้าจะให้สรุป ผลงานสองรัฐมนตรีเก่า ด้านการค้า “เด่นมาก” ได้ A+ ในหลาย ๆ เรื่อง แต่ด้านในประเทศ หลายเรื่อง “ทำได้ดี” หลายเรื่องแค่ “เสมอตัว” หลายเรื่อง “ติดลบ”

แล้วเรื่องที่ “ติดลบ” ยังเป็นปัญหาคาราคาซัง มาจนถึงตอนนี้ ก็เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีใหม่ ต้องเข้ามาสานต่อ

“เรื่องร้อน ๆ” ก็ราคาสินค้าเกษตร “ข้าว-มันสำปะหลัง-ปาล์ม-ข้าวโพด-ผลไม้” จะเอาไง

“ค่าครองชีพ” จะเอาไง ข้าว ก๋วยเตี๋ยว จานชามละ 40 บาท ยังมีขายอยู่ไหม หรือว่าเริ่มต้น 50-60 บาทไปแล้ว ราคาสินค้า จะเอาอยู่มั้ย หรือปล่อยให้ขึ้นราคาไปเรื่อย ๆ



“รายย่อย-SME” ค้าขายเป็นยังไง จะไปรอดหรือไม่รอด

“ส่งออก” ไหวมั้ย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2568 เป็นต้นไป ยอดขายจะเป็นยังไง แผนรับมือภาษีสหรัฐฯ ตลาดรองรับใหม่ ๆ พร้อมแล้วหรือยัง

นี่แค่เรื่องหลัก ๆ ยังมีเรื่องรอง เรื่องจร ที่จะแวะมาเยี่ยม มาทักทายอีกเป็นระยะ ๆ

ตอนนี้ทั้ง “นายจตุพร-นายฉันทวิชญ์” ได้ “เริ่มงาน” แล้ว และเท่าที่เห็นการทำงานช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลังได้รับการโปรดเกล้าฯ พูดได้ว่า “ใจสู้” และ “ถึงลูกถึงคน” เพราะ “ลุย ปะ ฉะ ดะ” กับปัญหาทันที

นายจตุพรลงใต้ไปดูปัญหา “ราคาผลไม้” ตามด้วย “การค้าชายแดน”

นายฉันทวิชญ์ บอกขอลุยเรื่องการเจรจาการค้า การดูแลผู้ประกอบการ และตามไปดูเรื่องการค้าชายแดน

และวันนี้ (7 ก.ค.) นายจตุพร จะเข้ากระทรวง “เป็นวันแรก” คงมี “นโยบายเร่งด่วน” อะไรออกมา และคง “แบ่งงาน” ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการที่มีอยู่ทั้งสองคน “นายฉันทวิชญ์” กับ “นายสุชาติ ชมกลิ่น” ช่วยกันทำ เดี๋ยวได้ข่าวแล้วจะมารายงานให้ทราบกันอีกครั้ง

ส่วนตอนนี้ ก็ขอแสดงความยินดีที่ได้มา “กำกับดูแล” งานกระทรวงพาณิชย์ และขอ “เอาใจช่วย” ให้จัดการกับปัญหาที่มีอยู่ให้ “สำเร็จลุล่วง” ให้สมกับที่ประชาชนคนไทยทั้งชาติฝาก “ความหวัง” เอาไว้

แต่ขอบอกไว้ก่อน งาน “กระทรวงพาณิชย์” ไม่ง่าย ไม่หมู

ทำดี “ดัง” ทำไม่ดี “ดับ” มีให้เห็นมานักต่อนักแล้ว

ซีเอ็นเอ