​จดบริษัทออนไลน์ได้อีก 20 จังหวัด

img

เมื่อช่วงต้นปี 2565 “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ได้นำร่องเปิด “บริการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration)” หรือเรียกสั้น ๆ “บริการจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์” สู่ “สำนักงานพาณิชย์จังหวัด” นำร่อง 5 แห่ง “นนทบุรี เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และอุดรธานี
         
ดีเดย์การให้บริการตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.2565 เป็นต้นมา
         
สำหรับ “ที่มา” ของการเปิดให้บริการดังกล่าว เพราะกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เล็งเห็นถึง “ปัญหา” ที่ว่า หากยังคงให้ “นายทะเบียนส่วนกลาง” เป็นผู้พิจารณา “คำขอจดทะเบียน” ทั้งหมดแบบ “รวมศูนย์” จะทำยิ่งทำให้การจดทะเบียนทำได้ “ล่าช้า” และไม่ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน  
         
แต่ถ้าขยายให้ “นายทะเบียน” ที่ประจำอยู่ที่ “สำนักงานพาณิชย์จังหวัด” เป็นผู้ “พิจารณา” และ “รับจดทะเบียน” จะทำให้การจดทะเบียนนิติบุคคลทำได้ “เร็วขึ้น”  

ทั้งนี้ หลังจากที่เปิดให้บริการแล้ว กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ทำการประเมิน “ปัญหา อุปสรรค ข้อดี ข้อด้อย” นานเกือบ 8 เดือน เพื่อนำ “ข้อสรุป” มาใช้ “ปรับปรุง” การดำเนินงานให้มี “ประสิทธิภาพ” มากขึ้น เพื่อตอบสนอง “ความต้องการ” ของภาคธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
           
ล่าสุด เมื่อเห็นถึง “ผลดี” มากกว่า “ผลเสีย” จึงได้ขยาย “การให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์” ซึ่งเป็น “ระยะที่ 2” เพิ่มเติมอีก 20 จังหวัด
         


ทั้ง 20 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ปทุมธานี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร พะเยา ระยอง จันทบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี สกลนคร บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สงขลา ยะลา
         
เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2565 เป็นต้นไป
         
ก่อนที่จะมาถึง “จุดนี้” กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ “เริ่มต้น” พัฒนาการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560
         
เริ่มจากการเพิ่มช่องทาง “การยืนยันตัวตน” ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) เพิ่มช่องทางให้ “ผู้แทน” สามารถ “จัดทำ” และ “ยื่นคำขอจดทะเบียน” แทนผู้ที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล (หุ้นส่วน/หุ้นส่วนผู้จัดการ ในกรณีคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน หรือผู้เริ่มก่อการ/กรรมการ ในกรณีคำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด) โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องมี Username & Password เพื่อเข้า “ระบบ” และ “ลงลายมือชื่อ”  

รวมถึงกำหนด “มาตรการต่าง ๆ” เพื่อสนับสนุนให้ “ภาคธุรกิจ” เข้าใช้งานระบบมากยิ่งขึ้น เช่น กำหนด “ส่วนลด” อัตราค่าธรรมเนียมแก่ “ห้างหุ้นส่วน” และ “บริษัทจำกัด” ที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration ร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 ถึง 31 ธ.ค.2566

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า” บอกว่า หลังจากที่ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration โดยให้นายทะเบียนที่ประจำอยู่ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด เป็นผู้พิจารณาและรับจดทะเบียน 5 จังหวัดนำร่อง พบว่า “ยอดการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล” ผ่านระบบ e-Registration เพิ่มขึ้นกว่า 45% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน (เม.ย.-ต.ค.2564 และเม.ย.-ต.ค.2565) แสดงถึง “ความตระหนักรู้” และ “ความพร้อม” ในการใช้บริการ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจ



“กรมฯ คาดหวังว่า การขยายการให้บริการเพิ่มเติมไปสู่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอีก 20 จังหวัด จะสร้างความพึงพอใจและช่วยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชนในการยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration ให้มีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม อันเป็นการสนับสนุนการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสอดรับสถานการณ์ปัจจุบัน และขานรับนโยบายรัฐบาลดิจิทัลได้เป็นอย่างดี”
         
นายทศพล ย้ำว่า “การขยายบริการจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์” สู่อีก 20 จังหวัด บวกของเดิม 5 จังหวัด รวมแล้วเป็น 25 จังหวัด ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี หลังจากเริ่มโครงการนำร่อง
         
เป็นสิ่งที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า “ตั้งใจ” และ “มุ่งมั่น” ที่จะเดินหน้า “อำนวยความสะดวก” ให้กับ “ภาคธุรกิจ” และ “ประชาชน
         
พร้อมกับตั้ง “เป้าหมาย” ที่จะ “ขยายบริการ” ให้ครบ “ทุกจังหวัด” ทั่วประเทศในระยะต่อไป
         
จากวิวัฒนาการของ “การพัฒนางานบริการ” ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ทำอย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป” และทำต่อเนื่องแบบ “เป็นขั้นเป็นตอน” ทำให้ผู้เขียนเชื่อว่า จะทำได้ “สำเร็จ” อย่างแน่นอน  

เพราะเท่าที่ติดตามการทำงาน

กรมฯ นี้ “ทำงานไว” และ “มีหลัก-มีเป้า” ชัดเจน
         
ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด