​จับจริง! ค้ากำไรเกินควร

img

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คงได้ทราบข่าวจากสื่อต่าง ๆ กันแล้วว่า “กระทรวงพาณิชย์” เอาจริง จับจริง พวกที่ฉวยโอกาส “ค้ากำไรเกินควร
         
จากการขายแพง “ยาฟ้าทะลายโจร” และ “ชุดตรวจโควิด-19” ที่เป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง ในช่วงสถานการณ์โควิด-19
         
เรื่องนี้ มีเสียงเรียกร้องจากประชาชนออกมาต่อเนื่องว่า ตรงโน้นขายแพง ตรงนี้ขายแพง ในแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ขายแพง  
         
แล้วฝากคำถามถึงกระทรวงพาณิชย์ ว่า “ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่จัดการ ทำไมไม่ไปจับ
         
ในความเป็นจริง กระทรวงพาณิชย์ “ทำงานอย่างต่อเนื่อง” แต่จะให้จับเลย ก็ไม่ได้ เพราะ “ต้องมีหลักฐานชัดเจนก่อน
         
ขั้นตอน ต้องเริ่มจากการตรวจสอบตามที่ประชาชน “ร้องเรียน” เข้ามา ร้านไหน ชื่ออะไร ใครเป็นผู้จำหน่าย ขายราคาเท่าไร ราคาเกินสมควรหรือไม่
         
ตามเจอแล้ว ก็ต้องไปดูว่า “ขายแพง” ตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่

ถ้าจริง ก็ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี
         
หลังดำเนินการมาระยะหนึ่งและสามารถจับกุมผู้ที่กระทำความผิดได้แล้ว “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ได้ออกมาแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการ เพื่อรายงานให้ประชาชนรับทราบว่ากระทรวงพาณิชย์ “เอาจริง” และ “ไม่ได้นิ่งเฉย” กับความเดือดร้อนของประชาชน     
         
ปัจจุบัน ได้ดำเนินคดีไปแล้ว 11 ราย ในข้อหา “ค้ากำไรเกินควร” ผิดมาตรา 29 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542
         


เป็นการดำเนินคดี “ยาฟ้าทะลายโจร” จำนวน 10 ราย และ “ชุดตรวจโควิด-19” จำนวน 1 ราย
         
ในส่วนของยาฟ้าทะลายโจร แยกเป็น 1.ผู้จำหน่ายยี่ห้ออภัยภูเบศร 8 ราย ขนาดขวด 60 แคปซูล มีราคาที่แจ้งกับกรมการค้าภายในอยู่ที่ 80 บาท แต่ขายในลาซาด้าขวดละ 349-450 บาท แพงกว่าที่แจ้ง 336-463%
         
2.ผู้จำหน่ายตราใบห่อ 1 ราย ขวดละ 70 เม็ด ราคาแนะนำขาย 25 บาท แต่ขาย 119 บาท แพงกว่าที่แจ้ง 376%
         
3.ผู้จำหน่ายยี่ห้อไฟโตแคร์ ขนาดบรรจุ 100 เม็ด ราคาแนะนำ 180 บาท เอาไปขาย 490 บาท สูงกว่าราคาที่ควรจะเป็น 172%
         
ทั้ง 10 ราย ถูกแจ้งความดำเนินคดีหมดแล้ว มีโทษสูงสุด “จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
         
ส่วนลาซาด้า กับช้อปปี้ ที่เป็นแพลตฟอร์ม แล้วปล่อยให้มีการนำสินค้าไปจำหน่าย ผู้มีอำนาจตามกฎหมายของแพลตฟอร์ม ก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีด้วย
         
สำหรับชุดตรวจโควิด-19 ได้เข้าไปตรวจสอบการจำหน่ายของร้านขายยา ที่ตั้งอยู่แถวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามที่ได้รับแจ้ง

พบมีการ “ค้ากำไรเกินควร” จริง เพราะราคาแนะนำอยู่ที่ 350 บาท แต่ขายที่ 450 บาท สูงกว่าที่ควรจะเป็น 29% ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว
         
นายจุรินทร์ ย้ำอีกว่า ได้เตรียมตรวจสอบเพิ่มอีกหลายราย ตามที่มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามา
         
โดยจะดำเนินคดีทุกราย “ไม่มียกเว้น” เพราะขณะนี้ จะต้องช่วยกันดูแล “ไม่ใช่มาซ้ำเติมกัน” ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และ “ยอมไม่ได้
         


ส่วนในต่างจังหวัด ได้มอบหมายให้ “พาณิชย์จังหวัด” ที่ประจำอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ดำเนินการตรวจสอบเชิงรุกตามที่ประชาชนร้องเรียน หรือแจ้งเบาะแสเข้ามา เช่นเดียวกัน
         
ถ้าพบการกระทำความผิด ก็ให้ดำเนินการเด็ดขาด ไม่มียกเว้น
         
สำหรับประชาชน ที่ต้องการตรวจสอบว่า “ยาฟ้าทะลายโจร” แต่ละยี่ห้อ มีราคาแนะนำเท่าไร สามารถตรวจสอบได้ผ่านเว็บไซต์ www.dit.go.th
         
ข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 13 ส.ค.2564 ได้นำรายชื่อบริษัทที่จำหน่าย ขนาดบรรจุ ชนิดบดผงหรือสารสกัด ขวดละกี่เม็ด และราคาขาย ขึ้นไว้บนเว็บไซต์แล้วรวม 64 ราย
         
ส่วน “ชุดตรวจโควิด-19” ได้มีการแจ้งข้อมูลให้กรมการค้าภายในแล้ว 10 ยี่ห้อ จากที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งหมด 34 ยี่ห้อ
         
แจ้งราคาขายเฉลี่ยชุดละ 250-350 บาท
         
โดยกำลังจะนำราคาแนะนำขายของแต่ละยี่ห้อขึ้นประกาศบนเว็บไซต์
         
ที่เหลือ เมื่อได้รับแจ้ง ก็จะทยอยนำขึ้นประกาศต่อไป
         
ใครที่ยังคิดว่า “พาณิชย์ทำงานช้า ไม่ทันใจ” ก็ขอให้เข้าใจกระบวนการทำงาน และขั้นตอนตามกฎหมายกันหน่อย
         
เพราะการจะแจ้งความดำเนินคดีกับใคร ใช้กฎหมายเล่นงานใคร จะต้องจับได้แบบ “คาหนังคาเขา
         
ที่สำคัญ ผู้ที่พบเห็น พบเจอ ก็อย่าละเลยที่จะรักษาสิทธิ์ของตนเอง ต้องเป็นผู้ “ชี้เป้า” และ “ให้เบาะแส
         
ร้านชื่ออะไร ตั้งอยู่ตรงไหน ผู้ขายชื่ออะไร ยี่ห้ออะไร ขายแพงยังไง ต้องให้รายละเอียดแบบครบถ้วน เพื่อให้ตามต่อได้ง่าย
         
แล้วที่สำคัญ “รายละเอียดของผู้แจ้ง” ทุกอย่าง “จะถูกเก็บเป็นความลับ” หมดกังวลได้
         
ดังนั้น เจอที่ไหน “ค้ากำไรเกินควร” โทรเบอร์นี้เลย 1569
 
ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด