
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าโชว์ผลงานจับมือ ธ.ก.ส. ผลักดันเกษตรกร และผู้ประกอบการ ใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันขอสินเชื่อ มีจำนวนสูงถึง 197,549 ต้น วงเงินรวมกว่า 187 ล้านบาท ไม้สักนำโด่งใช้ค้ำสูงสุด ตามด้วยยาง มะฮอกกานี สะเดา ประดู่ป่า พะยูง พลวง มะม่วง เตรียมลุยส่งเสริมและผลักดันต่อ เพื่อให้มีเงินทุนทำธุรกิจหรือใช้ในการดำรงชีพ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่กรมได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ส่งเสริมให้เกษตรกรไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วย พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 นับตั้งแต่มีการออกกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกัน โดยให้ไม้ยืนต้นเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันกันได้ ตั้งแต่ปี 2561 จากนั้นได้ร่วมมือกับขับเคลื่อนและผลักดันให้ไม้ยืนต้นสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ตามกฎหมาย จนเกิดผลเป็นรูปธรรมในปี 2563 ซึ่ง ธ.ก.ส. เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ
โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ 15 ก.ย.2568 กรม และ ธ.ก.ส. ได้ลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อสร้างการรับรู้เรื่องการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ 14 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น สุพรรณบุรี อุทัยธานี พิษณุโลก อ่างทอง อุบลราชธานี เพชรบุรี ชัยนาท เชียงราย ราชบุรี นครสวรรค์ นครพนม นครนายก และนครศรีธรรมราช ทำให้มีเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว 197,549 ต้น (316 สัญญา) วงเงินรวมกว่า 187 ล้านบาท โดยไม้ยืนต้นที่นำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ เช่น ต้นสัก ยาง มะฮอกกานี สะเดา ประดู่ป่า พะยูง พลวง มะม่วง เป็นต้น
“ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา กรมและ ธ.ก.ส. สามารถร่วมกันขับเคลื่อนและส่งเสริมให้เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย ปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเอง และเมื่อต้องการใช้เงินเพื่อต่อยอดลงทุนในธุรกิจหรือนำไปใช้เพื่อการดำรงชีพ ก็สามารถแปลงต้นไม้เป็นเงินได้ทันที สมตามเจตนารมณ์ของกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจที่ต้องการให้เกษตรกรและบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว และจากนี้ กรมและ ธ.ก.ส.จะร่วมมือกันผลักดันให้มีการนำไม้ยืนต้นมาใช้เป็นหลักประกันเพื่อขอกู้เงินต่อไป”นางอรมนกล่าว
สำหรับความร่วมมือระหว่างกรม และ ธ.ก.ส.ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เริ่มจาก 1.การประชาสัมพันธ์และลงพื้นที่ โดยกรมได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจและกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกันได้ (ไม้ยืนต้น) ตลอดจนแนวทางการนำไม้ยืนต้นมาใช้เป็นหลักประกันการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน โดย ธ.ก.ส.ร่วมให้การสนับสนุนในการให้ความรู้และผลักดันการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยทั้ง 2 หน่วยงานได้ดำเนินการภายใต้แนวคิดการน้อมนำแนวทางปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน ประชาชน รวมถึงสถาบันการเงิน ได้ตระหนักและเห็นคุณค่าจากการใช้ประโยชน์จากต้นไม้ รวมถึง ได้รับรู้กฎกระทรวงที่กำหนดให้ไม้ยืนต้นเป็นทรัพย์สินที่ใช้หลักประกันให้เกิดขึ้นได้จริง
2.ยอมรับการให้สินเชื่อทรัพย์สินประเภทไม้ยืนต้นจากสถาบันการเงิน โดย ธ.ก.ส. เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่ประกาศรับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจอย่างเป็นทางการ โดยได้กำหนดแนวทาง หลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินมูลค่าไม้ยืนต้น ชนิดของไม้ยืนต้น รวมทั้ง มูลค่าต้นไม้แต่ละต้นที่สามารนำมาใช้เป็นหลักประกันและใช้ควบคู่กับการเพิ่มวงเงินจดทะเบียนจำนองที่ดินได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคารประเมินมูลค่าต้นไม้ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานกลางของ ธ.ก.ส.ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งเงินทุนให้แก่เกษตรกรไทย
3.การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โดยกรม และ ธ.ก.ส.ได้ลงนามใน MOU ว่าด้วยการพัฒนาระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบ Host to Host และการส่งเสริมใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการระหว่างนโยบายด้านกฎหมายของกรมกับภาคการเงิน (ธ.ก.ส.) ที่ไม่เพียงช่วยเกษตรกรให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรธรรมชาติและสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจยั่งยืน รวมทั้งมีระบบจดทะเบียนฯ ที่ได้ร่วมกันพัฒนาให้มีความทันสมัยและรวดเร็ว โดยประชาชนและเกษตรกรเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด
4.การเดินหน้าความร่วมมือในอนาคต กรม และ ธ.ก.ส. ได้แสดงเจตจำนงค์ตามความร่วมมือที่ได้ลงนามใน MOU ที่จะเดินหน้าผลักดันกฎกระทรวงที่กำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกัน (ไม้ยืนต้น) อย่างต่อเนื่อง ขยายผลสร้างการรับรู้สู่เกษตรกร ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และประชาชนในทุกจังหวัด ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ สร้างรูปแบบการใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจสีเขียวและการพัฒนาที่ยั่งยืน
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง