กรมพัฒน์ลงนาม MOU 2 หน่วยงาน ดันร้านอาหารได้ฮาลาล เพิ่มโอกาสขายออนไลน์

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าลงนาม MOU กับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และ LINE MAN Wongnai ช่วยยกระดับร้านอาหารให้ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล และผลักดันเข้าสู่การขายออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับร้านอาหาร และเพิ่มทางเลือกในการบริโภคอาหารฮาลาลให้กับผู้บริโภค
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมและเผยแพร่ข้อมูลร้านอาหารที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาลผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และ LINE MAN Wongnai ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันธุรกิจร้านอาหารฮาลาลไทยก้าวสู่มาตรฐานสากลที่ไม่เพียงสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารฮาลาลในประเทศไทย หากสามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย รักษามาตรฐานคุณภาพ และสร้างสรรค์เมนูที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ ก็จะสามารถสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนได้

“MOU ฉบับนี้ จะมีสำนักงานคณะกรรมการกลางฯ มาร่วมตรวจสอบมาตรฐานและออกหนังสือรับรองให้กับร้านอาหารฮาลาล ซึ่งไม่เพียงสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคชาวมุสลิมและนักชิมไทยและต่างประเทศ แต่ยังเปิดช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มไลน์แมนที่จะทำให้ร้านอาหารฮาลาลเข้าถึงชาวมุสลิมได้ง่ายยิ่งขึ้น และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยกรมจะร่วมพัฒนาร้านอาหารฮาลาลที่มีเครื่องหมายรับรองให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นมืออาชีพ พร้อมเผยแพร่ให้ร้านเป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงช่วยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้เดินหน้าการพัฒนาร้านอาหารฮาลาลได้ครบทุกมิติต่อไปด้วย”นางอรมนกล่าว

ทั้งนี้ ปี 2567 มีประชากรมุสลิมทั่วโลกกว่า 1,907 ล้านคน หรือ 23.5% ของประชากรโลก และในปี 2593 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,761 ล้านคน ถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพสูง ขณะที่มูลค่าตลาดอาหารฮาลาลทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเติบโตแตะระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจฮาลาลเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมดาวรุ่งที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งใช้ประโยชน์



ขณะเดียวกัน อาหารฮาลาลไม่เพียงตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวมุสลิม แต่ยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไปที่ใส่ใจคุณภาพ ความสะอาด และมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร การได้รับมาตรฐานฮาลาล จึงเปรียบเสมือนตรารับรองคุณภาพที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจความน่าเชื่อถือให้กับร้านอาหาร และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ

พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรับรองมาตรฐานฮาลาล ไม่เพียงตอบสนองความต้องการด้านศาสนา แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นใจและเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจฮาลาลของไทย

นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่า ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์อันดับหนึ่งและข้อมูลร้านอาหารของไทย เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมร้านอาหารของไทยในทุกมิติ โดยความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับผู้ประกอบการร้านอาหารฮาลาลไทยสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งปัจจุบันมีร้านอาหารมาตรฐานฮาลาลทั่วประเทศอยู่บนแพลตฟอร์มแล้วกว่า 70% และยังมีแผนขยายจำนวนร้านอาหารฮาลาลในพื้นที่บริการเดลิเวอรีทั้ง 77 จังหวัด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวมุสลิมได้มากขึ้น และมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างโอกาสใหม่ให้ผู้ประกอบการ แต่ยังสอดคล้องกับพันธกิจ Respect Everyone ของบริษัทที่มุ่งให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มเข้าถึงอาหารที่ตรงกับความต้องการและวิถีชีวิตของคนไทย

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง