
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยบริษัทตั้งใหม่เดือน ส.ค.68 มีจำนวน 7,641 ราย เพิ่ม 0.6% ทุนจดทะเบียน 23,189 ล้านบาท เพิ่ม 31.38% เลิก 1,660 ราย ลด 20% ทุนจดทะเบียน 12,334 ล้านบาท ลด 11% รวม 8 เดือน ตั้งใหม่ 59,189 ราย ลด 4.25% เลิก 9,729 ราย ลด 2.63% ชี้สัดส่วนเลิกกับตั้งใหม่อยู่ที่ 6 ต่อ 1 เท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือน ส.ค.2568 มีจำนวน 7,641 ราย เพิ่มขึ้น 0.6% ทุนจดทะเบียน 23,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.38% โดยธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร และรวม 8 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-ส.ค.) ตั้งใหม่ 59,189 ราย ลดลง 4.25% ทุนจดทะเบียน 194,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.24% โดยธุรกิจตั้งใหม่ 3 อันดับแรกเหมือนกับเดือน ส.ค.2568
ทั้งนี้ ในเดือน ส.ค.2568 มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท เน็กซ์ดีซี กรุ๊ป (ทีเอช) จำกัด ทุนจดทะเบียน 3,440 ล้านบาท ประกอบกิจการพัฒนาและประกอบกิจการศูนย์บริการระบบข้อมูล (Data Center) บริษัท เคเจพี โฮลดิ้ง จำกัด ทุนจดทะเบียน 1,586 ล้านบาท ประกอบกิจการร่วมลงทุนกับนิติบุคคล บุคคล องค์การ สถาบัน ทั้งในประเทศเเละต่างประเทศ ในกิจการธุรกิจทุกประเภท และบริษัทนราธิวาส ซิตี้ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1,340 ล้านบาท ประกอบกิจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (โดยมิใช่ธุรกิจหลักทรัพย์)
ส่วนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือน ส.ค.2568 มีจำนวน 1,660 ราย ลดลง 20% ทุนจดทะเบียนเลิก 12,334 ล้านบาท ลดลง 11% โดยธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร รวม 8 เดือนของปี 2568 เลิก 9,729 ราย ลดลง 2.63% ทุนจดทะเบียนเลิก 63,033 ล้านบาท ลดลง 36.58% โดยธุรกิจ 3 อันดับ เหมือนกับที่เลิกของเดือน ส.ค.2568
โดยธุรกิจเลิกเดือน ส.ค.2568 ที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนสูง มี 1 ราย ได้แก่ บริษัททรู มัลติมีเดีย จำกัด ทุนจดทะเบียน 6,562.00 ล้านบาท ประกอบกิจการค่าบริการใช้โครงข่ายมัลติมีเดีย และค่าบริการทางเทคนิค
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์สัดส่วนของการจัดตั้งธุรกิจและจดเลิกในช่วง 8 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 6:1 กล่าวคือ จัดตั้ง 6 ราย เลิก 1 ราย โดยสัดส่วนนี้เท่ากับค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีย้อนหลัง (2563-2567) ส่วนจำนวนจัดตั้งใหม่ 59,189 ราย ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่มีจำนวน 54,746 ราย สำหรับประเภทธุรกิจที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วง 8 เดือนของปี 2568 จำนวน 3 อันดับแรก คือ 1.ธุรกิจขายส่งสินค้าทั่วไปโดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง เพิ่มขึ้น 51.18% 2.ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตและห้องชุด เพิ่มขึ้น 44.79% และ 3.ธุรกิจขนส่ง ขนถ่ายสินค้า และคนโดยสาร เพิ่มขึ้น 26.18% และธุรกิจชะลอการจัดตั้งใน 3 อันดับ คือ 1.ธุรกิจตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ลด 27.77% 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลด 22.97% และ 3.ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ลด 15.05%
สำหรับคาดการณ์การจดทะเบียนตั้งใหม่ทั้งปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 85,000-90,000 ราย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การผลักดันการใช้จ่าย การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว และการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ แต่ก็มีปัจจัยกระทบ จากภาษีสหรัฐฯ ปัญหาการค้าชายแดน ปัญหาหนี้ครัวเรือน และปัญหาสภาพคล่องของผู้ประกอบการ
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค.2568) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 2,024,018 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 31.16 ล้านล้านบาท มีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ 970,953 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 22.83 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 769,048 ราย หรือ 79.21% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 17.10 ล้านล้านบาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดและห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 200,409 ราย หรือ 20.64% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 0.44 ล้านล้านบาท และบริษัทมหาชนจำกัด 1,496 ราย หรือ 0.15% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 5.30 ล้านล้านบาท
โดยนิติบุคคลในกลุ่มธุรกิจบริการเป็นประเภทธุรกิจที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนมากที่สุดมีจำนวน 526,852 ราย ทุนจดทะเบียน 13.21 ล้านล้านบาท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง/ค้าปลีก 317,596 ราย ทุน 2.59 ล้านล้านบาท และธุรกิจผลิต 126,505 ราย ทุน 7.03 ล้านล้านบาท คิดเป็น 54.26%, 32.71% และ 13.03% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ตามลำดับ
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง