
สนค.เผยดัชนีราคาส่งออก เดือน ก.ค.68 เพิ่มขึ้น 0.5% จากความต้องการเร่งสต๊อกสินค้าของประเทศคู่ค้า ก่อนสหรัฐฯ ขึ้นภาษี ส่วนดัชนีราคานำเข้า เพิ่ม 2.4% เหตุผู้ผลิตในประเทศต้องเร่งนำเข้า เพื่อมาผลิตเป็นสินค้าส่งออกและรองรับการบริโภคในประเทศ คาด ส.ค.ยังขยายตัว เหตุสหรัฐฯ เก็บภาษีไทย 19% แข่งขันกับอาเซียนได้ ตลาดต้องการสินค้าเกษตร และเทคโนโลยี แต่ต้องระวังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สินค้าเกษตรผันผวน เงินบาทแข็งค่า
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเดือน ก.ค.2568 เท่ากับ 111.2 เพิ่มขึ้น 0.5% จากการความต้องการนำเข้าสินค้าเพื่อเพิ่มสต๊อกก่อนการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จะเริ่มบังคับใช้ เพื่อลดความเสี่ยงด้านราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และความต้องการสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น และดัชนีราคานำเข้าเท่ากับ 115.7 เพิ่มขึ้น 2.3% จากการนำเข้าเพื่อนำมาผลิตเป็นสินค้าส่งออก และรองรับการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น
สำหรับรายละเอียดดัชนีราคาส่งออกเดือน ก.ค.2568 ที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของหมวดสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 1.7% ได้แก่ ทองคำ ราคายังทรงตัวสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน ตามความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขยายตัวตามการเติบโตของเทคโนโลยี
และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่ม 1.3% ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ตามต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อาหารสัตว์เลี้ยง ตามความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้น และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะน้ำดื่ม และน้ำผลไม้ ตามความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
ส่วนหมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกลดลง ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ลด 11.8% ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำมันดิบ เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น และความความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และหมวดสินค้าเกษตรกรรม ลด 5.0% ได้แก่ ข้าว จากอุปทานที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันด้านราคา รวมถึงความต้องการของตลาดบางประเทศลดน้อยลงจากสต๊อกข้าวคงเหลือภายในประเทศ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เมื่อเทียบกับปีก่อนราคายังปรับตัวลดลง เนื่องจากอุปทานล้นตลาด ประกอบกับอุปสงค์จากจีนชะลอลง
ด้านดัชนีราคานำเข้า เดือน ก.ค.2568 ที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่ม 7.8% ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องประดับอัญมณี และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการสินค้าเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคของประเทศ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เพิ่ม 5.4% โดยเฉพาะทองคำ ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสำรองทองคำของธนาคารกลางหลายแห่ง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สำหรับอุปกรณ์ ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ตามความต้องการชิ้นส่วนและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการผลิตและส่งออก และปุ๋ย ตามราคาปุ๋ยตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะปุ๋ยยูเรีย และปุ๋ยที่มีส่วนผสมของ N P K
หมวดสินค้าทุน เพิ่ม 5.1% ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งออก และการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการใช้เทคโนโลยีในประเทศเพื่อสนับสนุนการผลิต และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เพิ่ม 1.3% โดยเฉพาะส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ตามความต้องการเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ขณะที่หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ลด 11.5% โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ทยอยปรับลดลงในช่วงก่อนหน้า
นายพูนพงษ์กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีราคาส่งออกและดัชนีราคานำเข้า เดือน ส.ค.2568 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ดัชนีขยายตัว มาจากอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ที่สหรัฐฯ ประกาศใช้กับไทยที่ 19% ยังอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ความต้องการบริโภคสินค้าเกษตรแปรรูป และอาหารในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI และ Data Center ยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก และต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าหลัก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ แม้จะผ่อนคลายแต่ยังมีแนวโน้มยืดเยื้อในหลายภูมิภาค ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงนโยบายของหลายประเทศที่มุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศมากขึ้น ตลอดจนมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม อาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ ราคาสินค้าเกษตรสำคัญบางกลุ่มเผชิญกับปัญหาอุปทานส่วนเกิน และการแข่งขันทางด้านราคา และเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า ซึ่งเป็นข้อจำกัดของภาคการส่งออกไทย
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง