​“จตุพร”มอบ PM’s Export Award 2025 ให้กับสุดยอดผู้ประกอบการจำนวน 42 รางวัล

img

“จตุพร” มอบรางวัล PM’s Export Award 2025 จำนวน 42 รางวัล ให้กับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสินค้า บริการ สร้างแบรนด์ นวัตกรรม และการทำธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เผยผู้ที่ได้รับรางวัล แค่ครึ่งปีทำเงินเข้าประเทศแล้วเกือบ 5 หมื่นล้านบาท ชูเป็นเครื่องจักรช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล Prime Minister’s Export Award 2025 (PM’s Export Award 2025) ครั้งที่ 33 ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ ว่า รางวัล PM’s Export Award ถือเป็นรางวัลสูงสุดของรัฐบาล ที่มอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจส่งออก ทั้งด้านคุณภาพสินค้าและบริการ การสร้างแบรนด์ การสร้างนวัตกรรม และการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยปี 2567 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่ได้รางวัล สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วนผู้ที่ได้รางวัลปีนี้ แค่ช่วงครึ่งปี 2568 ทำเงินเข้าประเทศแล้วเกือบ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งสะท้อนบทบาทสำคัญของการส่งออกในฐานะเครื่องจักรหลัก ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยควบคู่ไปกับภาคการท่องเที่ยว ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าได้

ทั้งนี้ ในปัจจุบันผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความท้าทาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และมาตรการทางการค้า อาทิ มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของตลาดยุโรป มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ตลอดจนสถานการณ์การค้าชายแดน รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จึงมุ่งดำเนินนโยบายเชิงรุก เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยตนได้ให้นโยบายกับกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น “พาณิชย์พึ่งได้” และ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” เพื่อเป็นที่พึ่งดูแลผู้ประกอบการและประชาชน

นอกจากนี้ ให้เดินหน้าการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีอยู่กับคู่ค้าเดิม ให้ง่ายต่อการเข้าถึง และเร่งเจรจา FTA กับคู่ค้าใหม่ อาทิ สหภาพยุโรป (อียู) ที่ขณะนี้ การเจรจามาเกือบครึ่งทางแล้ว ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายในปีนี้ และต้องเร่งขยายตลาดใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออก รวมไปถึงการช่วยพัฒนาสินค้า พัฒนานวัตกรรม และทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีการค้าโลกและนำเงินตราเข้าสู่ประเทศได้อย่างยั่งยืน



“รางวัลนี้ ไม่ใช่เพียงเครื่องสะท้อนความสำเร็จ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งศักยภาพของผู้ประกอบการไทยที่สามารถยกระดับมาตรฐานธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผู้ได้รับรางวัลสามารถนำตราสัญลักษณ์ PM’s Export Award ไปใช้กับสินค้าและบริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลกได้ ผมขอแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการทุกท่านที่ได้รับรางวัล ถือเป็นความสำเร็จอันทรงเกียรติและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ประกอบการรายอื่น ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับรางวัล อย่าเพิ่งท้อถอย เพราะการพัฒนาศักยภาพธุรกิจต้องทำอย่างต่อเนื่อง ปีหน้าก็ส่งใหม่ ส่วนผู้ได้รางวัล ต้องรักษามาตรฐาน เป็นแชมป์ว่ายากแล้ว รักษาแชมป์ยากกว่า ต้องเพิ่มศักยภาพให้มากขึ้น และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ประกอบการรายอื่น”นายจตุพรกล่าว
         
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า โครงการนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2535 ปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 33 มีผู้ได้รับรางวัล รวมทั้งสิ้น 42 รางวัล จาก 39 บริษัท ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งสาขารางวัลออกเป็น 7 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) จำนวน 9 รางวัล รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) จำนวน 8 รางวัล รางวัลผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน (Best Green & Sustainable Exporter) จำนวน 7 รางวัล รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) จำนวน 7 รางวัล รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) จำนวน 6 รางวัล แบ่งออกเป็น 4 สาขา สาขาโรงพยาบาล/คลินิก (Health Services) จำนวน 1 รางวัล สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software) จำนวน 1 รางวัล สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing & Packaging) จำนวน 2 รางวัล สาขาโลจิสติกส์การค้า (Trade Logistics) จำนวน 2 รางวัล รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) จำนวน 2 รางวัล รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) จำนวน 3 รางวัล
         
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายเพื่อต่อยอดความสำเร็จ อาทิ การได้รับโล่รางวัลและประกาศนียบัตร การใช้ตราสัญลักษณ์ PM’s Export Award เพื่อส่งเสริมการตลาดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าของกรม  

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง