
“อรมน” แจงละเอียดแผน IP 4 All ที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win ของ “ศุภจี” เตรียมเดินหน้าดันขึ้นทะเบียน GI ใหม่ เป้า 26 สินค้า ดันสินค้าชุมชนจดทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมงานหัตถศิลป์ นำ AI ช่วยตรวจสอบการจดสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า นำระบบ Fast Track มาใช้ เฝ้าระวังเครื่องหมายการค้าโดนละเมิด ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ การพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา และเข้มปราบสินค้าปลอม
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้รับนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เร่งขับเคลื่อน Quick Big Win ในด้านทรัพย์สินทางปัญญา จึงได้ทำแผน IP 4 All ขึ้นมา เพื่อใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในทุกภาคส่วน ทั้งภาคชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษาวิจัย และภาคประชาชน ซึ่งแนวทางการทำงานที่แถลงในครั้งนี้ มีรายละเอียดครบถ้วนมากกว่าที่เคยแถลงไปก่อนหน้านี้ โดยแผนงานทั้งหมด มีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน และมุ่งผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม
โดยการทำงานในมิติแรก ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อชุมชน (IP for Community) จะเน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยปี 2569 ตั้งเป้าขึ้นทะเบียนรายการใหม่อย่างน้อย 26 สินค้า สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 34,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมี 241 รายการ สร้างรายได้ 114,000 ล้านบาท และจะช่วยควบคุมคุณภาพ ส่งเสริมการตลาด เปิดให้สินค้าที่แปรรูปจาก GI นำโลโก้ไปใช้ ผลักดันสินค้าชุมชนจดคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยปี 2569 จะเน้นจังหวัดภาคใต้ ร่วมมือสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (SACIT) ส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทย
มิติที่สอง ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อธุรกิจ (IP for Business) จะนำระบบ AI มาช่วยพัฒนาระบบตรวจสนอบการจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า นำระบบ Fast Track มาช่วยลดระยะเวลาจดทะเบียน โดยสิทธิบัตร เพิ่มอุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง สิทธิบัตรการออกแบบ เพิ่มชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องหมายการค้า เพิ่มเครื่องหมายให้กับสินค้าที่จะขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงเดินหน้าบริการ Trademark Monitor หรือการเฝ้าระวังการนำเครื่องหมายการค้าของคนไทยไปจดทะเบียนในต่างประเทศ จะเปิดรับผู้ประกอบการ เดือน พ.ย.2568 เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจทรัพย์สินทางปัญญา และผลักดันทรัพย์สินทางปัญญาใช้เป็นหลักประกันขอสินเชื่อ
มิติที่สาม ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการสร้างสรรค์วิจัยและนวัตกรรม (IP for Innovation) จะส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ การสร้างโอกาสทางการค้า และการจับคู่ธุรกิจให้กับนักสร้างสรรค์ ผ่านแพลตฟอร์มตลาดกลางทรัพย์สินทางปัญญา (IP Mart) การจัดงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (IP Fair) และการจัดงานไลเซนซิงคาแรกเตอร์และคอนเทนต์ ต่อยอดความร่วมมือกับหน่วยงาน เช่น สถาบันการศึกษา เพื่อสร้างเครือข่ายส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกัน รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของไทย ตามกรอบ Global Innovation Index (GII) และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา และเพิ่มระบบแจ้งเตือนสิทธิบัตรที่หมดอายุและใกล้หมดอายุ เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง จากที่เคยแจ้งเตือนเดิม เช่น ยา เคมี ไฟฟ้า เครื่องมือวัด เครื่องจักรกล และโลหะการและวัสดุ เพื่อส่งเสริมการต่อยอดนวัตกรรมใหม่และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
มิติที่สี่ ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อผู้บริโภค (IP for Consumer) จะเร่งป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด โดยกระชับความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปูพรมปราบปรามสินค้าละเมิดทั่วประเทศ โดยเฉพาะแหล่งกระจายสินค้า โกดังเก็บสินค้า การใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนช่องทางออนไลน์ ความร่วมมือกับแพลตฟอร์ม e-Commerce ในการใช้มาตรการ Notice & Takedown นำสินค้าละเมิดออกจากแพลตฟอร์มทันทีที่ได้รับแจ้ง เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากการหลอกลวงของสินค้าแบรนด์ปลอมและป้องกันอันตรายจากสินค้าที่ด้อยคุณภาพและมาตรฐาน และจะพัฒนาระบบการให้บริการของกรมเพื่อรองรับกลุ่มเปราะบาง เช่น ปรับปรุงระบบค้นหาข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาให้รองรับการใช้บริการของผู้มีภาวะตาบอดสี เป็นต้น
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง