​DITP ถกผู้นำเข้าอาหารรายใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์-เยอรมนี ผลักดันซื้อสินค้าไทยเพิ่ม

img

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ใช้จังหวะช่วงเยี่ยมชมงาน ANUGA 2025 หารือผู้นำเข้าสินค้าอาหารรายใหญ่ เผยในส่วนของผู้นำเข้าสวิตเซอร์ ผลักดันให้มีการนำเข้าอาหารจากไทยเพิ่ม และร่วมมือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนผู้นำเข้าเยอรมนี ขอเพิ่มนำเข้าเช่นเดียวกัน และชวนมาร่วมงานแสดงสินค้า เจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตไทย
         
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการเดินทางเข้าเยี่ยมชมการจัดงาน ANUGA 2025 ได้ใช้โอกาสนี้หารือกับผู้นำเข้าอาหารเอเชียรายใหญ่ คือ Mrs.Paula Goncalves CEO บริษัท Stutzer & Co.AG ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารรายใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ และได้ผลักดันให้บริษัทเพิ่มการนำเข้าสินค้าอาหารจากไทยเพิ่มมากขึ้น และร่วมมือในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย เพื่อกระตุ้นการบริโภคและทำให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น
         
ปัจจุบันบริษัท Stutzer & Co.AG มีการนำเข้าสินค้าไทยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นอาหารแห้ง ได้แก่ ข้าว กะทิ ซอสปรุงรสต่าง ๆ เบียร์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมขบเคี้ยว อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง เครื่องแกง และผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน เป็นต้น และยังเป็นผู้แทนจำหน่ายเบียร์สิงห์ และผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ โดยสินค้านำเข้าของบริษัทแบ่งเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ 1.สินค้าที่ผลิตภายใต้แบรนด์ “Le Dragon” ซึ่งเป็นแบรนด์เฉพาะของบริษัท 2.สินค้าที่ผลิตภายใต้ชื่อของซัปพลายเออร์ และ 3.สินค้าที่ผลิตภายใต้ชื่อของบริษัทผู้ผลิตไทยโดยตรง
         


โดยมีช่องทางการจัดจำหน่าย แบ่งออกเป็นร้านค้าปลีก เช่น ร้านขายสินค้าเอเชีย ซูเปอร์มาร์เก็ต Mainstream Food service Distributor เช่น Wholesaler, Cash & Carry, โรงแรมและร้านอาหาร และ Industrial เช่น ผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน โดยบริษัทยังได้จัดตั้งบริษัทสาขาที่ไทย คือ บริษัท Valcom Co., Ltd. เพื่อใช้สำหรับการหาสินค้า และติดต่อกับผู้ผลิตโดยตรง รวมถึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในไทย 2 แห่ง ในการพัฒนาและควบคุมคุณภาพสินค้าอาหารสด อาทิ ผักและผลไม้สดที่นำเข้าตรงมาตลาดสวิส รวมถึงวัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบของสินค้าอาหาร เครื่องแกงหรือเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ที่ส่งออกมาตลาดสวิส เพราะสวิตเซอร์แลนด์มีกฎระเบียบการนำเข้าอาหารที่เข้มงวดโดยเฉพาะในเรื่องสารปนเปื้อนและสารเคมีตกค้าง หากสามารถควบคุมคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานสวิส ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสการนำเข้าสินค้าไทยสู่ตลาดสวิสได้มากขึ้น
         
น.ส.สุนันทากล่าวว่า DITP ยังได้หารือกับ Mr.Jörn Kreyenhop ตำแหน่ง Board of Management บริษัท Kreyenhop & Kluge GmbH & Co. KG ผู้นำเข้าสินค้าอาหารเอเชียรายใหญ่ในเยอรมนี โดยบริษัทมีการนำเข้าสินค้าอาหารและสินค้าไม่ใช่อาหารจากหลายประเทศในเอเชีย ได้แก่ ไทย 614 รายการ ญี่ปุ่น 316 รายการ จีน 278 รายการ เกาหลี 262 รายการ อินเดีย 183 รายการ เวียดนาม 110 รายการ เป็นต้น นำเข้าประมาณ 50,000 ตันต่อปี มีคลังสินค้าที่ทันสมัยขนาด 20,000 ตร.ม. และคลังสินค้าแบบแช่เย็น 2,500 ตร.ม. ช่องทางจำหน่ายสินค้ามีทั้งเครือไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำต่าง ๆ เช่น EDEKA, REWE, METRO ห้างสรรพสินค้า Discounter และซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย ในเยอรมนี ออสเตรีย และเดนมาร์ก รวมถึงจำหน่ายสินค้าวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป
         
“บริษัทได้ให้ข้อมูลว่าปัจจุบันมีการนำเข้าจากไทย คิดเป็นอัตราประมาณ 53% ของการนำเข้าสินค้าทั้งหมดในปี 2024 โดยนำเข้าจากไทยประมาณ 30 ล้านยูโร (1.138 พันล้านบาท) สินค้าที่นำเข้า เช่น อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง ข้าว กะทิ ซอสปรุงรสต่าง ๆ เครื่องดื่ม ชา กาแฟ และสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ๆ ซึ่งตลาดการค้าปลีกในเยอรมนีปัจจุบันมีการแข่งขันสูงเนื่องจากกลยุทธ์ House brand ของห้าง ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจะนำเข้าตรงจากผู้ผลิต ผู้ส่งออก ส่วนการนำเข้าสินค้าอาหารไทยของบริษัทยังคงขยายตัวทุกปี และบริษัทยินดีให้ความร่วมมือผลักดันสินค้าไทย ซึ่ง DITP ได้ใช้โอกาสนี้ ขอให้เพิ่มการนำเข้าสินค้าไทย และยังได้เชิญชวนให้มาร่วมงานแสดงสินค้าอาหารในไทย เพื่อคัดเลือกสินค้าและพบปะกับผู้ผลิต รวมทั้งเข้าร่วมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ เพื่อหาคู่ค้าใหม่ ๆ เพิ่ม”น.ส.สุนันทากล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง