
สนค.เผยดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือน ก.ย.68 เพิ่ม 0.4% ขยายตัวต่อเนื่อง 16 เดือนติด จากความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างพื้นฐานภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม และการซ่อมแซม คาด ต.ค. ยังคงเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้าง ซ่อมบ้านเรือน การขยายตัวของตลาดบ้านมือสอง และการปรับปรุงอาคารรองรับการท่องเที่ยวปลายปี
นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน ก.ย.2568 เท่ากับ 113.6 เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.2567 เพิ่มขึ้น 0.4% ขยายตัวต่อเนื่อง 16 เดือนติดต่อกัน โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการสินค้าหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ ซีเมนต์ คอนกรีต วัสดุฉาบผิว อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ตามความต้องการใช้ในโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม และการซ่อมแซมด้านคมนาคมและการเกิดภัยพิบัติในหลายพื้นที่ แต่ก็มีหลายสินค้าที่ราคาลดลง อาทิ เหล็กและผลิตภัณฑ์ กระเบื้อง สุขภัณฑ์ และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ
สำหรับรายละเอียดดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 1.0% จากการสูงขึ้นของไม้แบบ วงกบหน้าต่าง และบานหน้าต่าง จากความต้องการใช้ไม้แปรรูปขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หมวดซีเมนต์ เพิ่ม 5.4% จากการสูงขึ้นของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนซีเมนต์ผสม และปูนฉาบสำเร็จ เนื่องจากมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและโครงการภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อเนื่องให้หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต เพิ่ม 1.2% จากการสูงขึ้นของเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง คานคอนกรีตสำเร็จรูป และท่อระบายน้ำคอนกรีต เนื่องจากการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (ปูนซีเมนต์ ทราย)
หมวดวัสดุฉาบผิว เพิ่ม 0.6% จากการสูงขึ้นของสีน้ำอะครีลิคทาภายนอก สีทาถนนชนิดสะท้อนแสง และสีเคลือบน้ำมัน เนื่องจากมีความความต้องการใช้ในการปรับปรุงและตกแต่งอาคารเพื่อรองรับการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี และใช้ในโครงการก่อสร้างและการซ่อมแซมด้านคมนาคมของภาครัฐหลังเกิดภัยพิบัติในหลายพื้นที่ หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา เพิ่ม 1.6% จากการสูงขึ้นของสายส่งกำลังไฟฟ้า NYY สายไฟฟ้า VCT สายไฟฟ้า VAF และสายเคเบิล THW ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (ทองแดง) และมีความต้องการใช้ในการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคของภาครัฐเพิ่มขึ้น
ส่วนหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลด 0.9% จากการลดลงของเหล็กตัวซี เหล็กตัว H ท่อเหล็กกลวงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และท่อเหล็กดำ จากค่าเงินบาทที่แข็งส่งผลให้ราคาวัตถุดิบลดลง (บิลเล็ต เศษเหล็ก เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กแผ่นรีดเย็น) หมวดกระเบื้อง ลด 1.0% จากการลดลงของกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น กระเบื้องเคลือบบุผนัง และกระเบื้องเคลือบปูพื้น เนื่องจากความต้องการใช้ลดลงตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ หมวดสุขภัณฑ์ ลด 4.0% จากการลดลงของโถส้วมชักโครก อ่างล้างหน้าเซรามิก ฝักบัวอาบน้ำ และราวจับสแตนเลส เนื่องจากความต้องการใช้ลดลงตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ลด 2.5% จากการลดลงของยางมะตอย ตามการลดลงของราคาวัตถุดิบ (ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี) และอลูมิเนียมแผ่นเรียบ ต้นทุนวัตถุดิบ (อลูมิเนียม) ปรับราคาลดลงจากค่าเงินบาทแข็ง
ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน ต.ค.2568 ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยมีปัจจัยจากความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างในโครงการก่อสร้างพื้นฐานและโครงการต่อเนื่องของภาครัฐที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างในการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังเกิดภัยพิบัติและการขยายตัวของตลาดบ้านมือสอง การปรับปรุงและตกแต่งอาคารเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง