“จตุพร”โชว์พร้อมรับมือวิกฤตโลก ลุยไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย-พาณิชย์พึ่งได้

img

“จตุพร”เป็นประธานมอบรางวัล “สำเภา-นาวาทอง” พร้อมโชว์วิชัน ในการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ประสิทธิภาพหน่วยงานภาครัฐ กับการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน” ประกาศพาณิชย์พร้อมรับมือวิกฤตโลกทุกด้าน ใช้นโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจประเทศ และล่าสุดมี “พาณิชย์พึ่งได้” ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ประชาชน และภาคธุรกิจ เผยปีนี้มีหน่วยงานรัฐได้รางวัล 39 หน่วยงาน  

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “สำเภา-นาวาทอง” ประจำปี 2568 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ประสิทธิภาพหน่วยงานภาครัฐ กับการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน” ณ หอประชุมใหญ่ อาคาร 15 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ว่า การขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยหน่วยงานภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ และสามารถปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะความท้าทายระดับโลก เช่น ภูมิรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ความเสี่ยงทางสังคม ความเหลื่อมล้ำ และการเปลี่ยนแปลงของประชากร ความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร ตั้งแต่สภาพอากาศสุดขั้ว การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การขาดแคลนทรัพยากร ไปจนถึงความไม่แน่นอนทางเทคโนโลยีและสังคม รวมไปถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก ที่กระทบต่อการค้าและกำลังซื้อภายในประเทศ เช่น การแข่งขันทางการค้ารุนแรง หนี้ครัวเรือนสูงต่อเนื่อง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และความไม่แน่นอนทางการเมือง

โดยการรับมือกับความท้าทายดังกล่าว ภาครัฐจะต้องดำเนินการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และบริหารนโยบายในทุกระดับ ให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้โปร่งใส รวดเร็ว และทันสมัย นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและสังคมยั่งยืน โดยเฉพาะการผลักดันในเรื่องความยั่งยืน (ESG) ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการ (Governance) และการไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) ในงานภาครัฐ
         
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้มีความพร้อมในการรับมือความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยมีนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจประเทศ โดยจะส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาสินค้าไทย ผลักดันให้คนไทยใช้ของไทย และคนไทยต้องช่วยกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร หรือสินค้าอุตสาหกรรม และล่าสุดมีนโยบาย “พาณิชย์พึ่งได้” ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ประชาชน และภาคธุรกิจ หากมีปัญหาก็สามารถติดต่อได้ผ่าน MOC Fondue ผ่านไลน์แอปพลิเคชัน
         


ส่วนการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร ที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยกตัวอย่างเช่น สินค้าข้าว มีแผนที่จะจัดทำแซนด์บ็อกซ์ จัดโซนเพาะปลูกพืชชนิดอื่นที่เหมาะสมแทน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะในพื้นที่เพาะปลูกที่ไม่เหมาะสม ที่มีปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และทั้งท่วมทั้งแล้ง และพื้นที่เพาะปลูกพันธุ์ข้าวไม่ตรงตามที่ตลาดต้องการ
         
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การสร้าง Ecosystem ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจและการลงทุน เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติ โดยในปีที่ผ่านมา หอการค้าไทยได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐ 22 แห่ง นำร่องเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อลดขั้นตอน ลดการเรียกเอกสาร และยกเลิกการเซ็นสำเนา สามารถลดกระบวนการได้กว่า 500 รายการ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพภาครัฐให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้ประกอบการ

สำหรับรางวัล “สำเภา–นาวาทอง” ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเชิดชูเกียรติ แต่ยังเป็นแรงผลักดันที่กระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานของภาครัฐมีความ มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชนได้ดียิ่งขึ้น
         
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการสนับสนุนการลงทุนและอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ กล่าวว่า รางวัล “สำเภา-นาวาทอง” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการทำงานเชิงรุกที่มองไปในอนาคต โดยได้รับความร่วมมือจาก ก.พ.ร. และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในการประเมินอย่างเข้มข้น ยึดหลัก 3 ประการคือ ประสิทธิภาพ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และผลสัมฤทธิ์ โดยรางวัลในปี 2568 นี้ มีผู้ได้รับรางวัลรวม 39 หน่วยงาน แยกเป็นรางวัลระดับกระทรวง 6 กระทรวง ระดับกรม 13 หน่วยงาน ระดับกระบวนงาน 5 หน่วยงาน และระดับภูมิภาค 15 หน่วยงาน


 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง