
กรมการค้าต่างประเทศรายงานตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือน มิ.ย.68 มีมูลค่า 189,073 ล้านบาท เพิ่ม 16.7% ค้าขายกับมาเลเซียสูงสุด ตามด้วย สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา เผยเฉพาะกัมพูชา ยอดวูบ 23.3% จากปัญหาความขัดแย้ง การปิดด่าน ฉุดสินค้าส่งออกลดลง ส่วนการค้าผ่านแดน จีนยังรุ่ง เพิ่มแรง 41.5% ตามด้วยสิงคโปร์และเวียดนาม รวม 6 เดือน มูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านบาทแล้ว เพิ่ม 12%
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน มิ.ย.2568 มีมูลค่า 189,073 ล้านบาท เพิ่ม 16.7% เป็นการส่งออก 115,427 ล้านบาท เพิ่ม 19.7% และการนำเข้า 73,646 ล้านบาท เพิ่ม 12.3% ได้ดุลการค้า 41,781 ล้านบาท และรวม 6 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 1,022,244 ล้านบาท เพิ่ม 12.0% เป็นการส่งออก 596,261 ล้านบาท เพิ่ม 11.6% และการนำเข้า 425,983 ล้านบาท เพิ่ม 12.7% ไทยได้ดุลการค้า 170,277 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากแยกเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือน มิ.ย.2568 มีมูลค่า 76,404 ล้านบาท ลด 3.8% เป็นการส่งออก 47,207 ล้านบาท ลด 2.1% การนำเข้า 29,197 ล้านบาท ลด 6.6% ได้ดุลการค้า 18,010 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับมาเลเซีย มูลค่าสูงสุด 25,720 ล้านบาท ลด 2.00% รองลงมา คือ สปป.ลาว 22,588 ล้านบาท เพิ่ม 0.8% เมียนมา 17,188 ล้านบาท เพิ่ม 3.8% และกัมพูชา 10,908 ล้านบาท ลด 23.3% ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 2,843 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ 1,583 ล้านบาท และสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่น ๆ 1,383 ล้านบาท ทำให้ 6 เดือนของปี 2568 การค้าชายแดนมีมูลค่า 506,061 ล้านบาท เพิ่ม 2.5% เป็นการส่งออก 308,248 ล้านบาท เพิ่ม 0.9% และการนำเข้า 197,813 ล้านบาท เพิ่ม 5.2%
ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม เดือน มิ.ย.2568 มีมูลค่า 112,670 ล้านบาท เพิ่ม 36.5% เป็นการส่งออก 68,220 ล้านบาท เพิ่ม 41.5% และการนำเข้า 44,449 ล้านบาท เพิ่ม 29.4% โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงที่สุด 68,992 ล้านบาท เพิ่ม 41.6% รองลงมา คือ สิงคโปร์ และเวียดนาม มูลค่า 13,511 ล้านบาท เพิ่ม 28.4% และ 7,674 ล้านบาท เพิ่ม 12.9% ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญ ได้แก่ ทุเรียนสด 22,122 ล้านบาท ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 12,631 ล้านบาท และเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ 5,880 ล้านบาท ทำให้ 6 เดือนของปี 2568 การค้าผ่านแดนมีมูลค่า 516,183 ล้านบาท เพิ่ม 23.2% เป็นการส่งออก 288,012 ล้านบาท เพิ่ม 25.8% และการนำเข้า 228,171 ล้านบาท เพิ่ม 20.1%
นางอารดากล่าวว่า การค้าชายแดนในเดือน มิ.ย.2568 ที่ลดลง 3.8% และการส่งออกชายแดน ลด 2.6% เป็นผลมาจากการค้าชายแดนด้านกัมพูชาที่หดตัวสูงถึง 23.3% จากมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา ที่เริ่มต้นมาตรการในขั้นที่ 1 และ 2 ในการจำกัดการผ่านเข้า–ออกของบุคคล และปรับเวลาการเปิด–ปิดด่าน ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.2568 จนถึงมาตรการการงดการผ่านเข้า–ออกของยานพาหนะทุกประเภทในวันที่ 23 มิ.ย.2568 ตลอดจนประกาศของฝั่งกัมพูชาที่ตัดการนำเข้าไฟฟ้าจากไทย ทำให้มูลค่าการส่งออกชายแดนไทย–กัมพูชาลดลงเหลือ 8,961 ล้านบาท ลด 23.8% โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น นม UHT นมถั่วเหลือง ลด 23.6% พลังงานไฟฟ้า ลด 48.8% น้ำแร่น้ำอัดลมที่ปรุงรส ลด 24.6% และครีมเทียม ลด 17.9% เป็นต้น โดยยังคงต้องติดตามข้อมูลในเดือน ก.ค.2568 ซึ่งน่าจะเห็นผลกระทบต่อการค้าชายแดนชัดเจนขึ้นอีก
สำหรับการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในเดือน มิ.ย.2568 ที่ขยายตัว มาจากการส่งออกผ่านแดนไปจีนเพิ่มสูงถึง 50.6% โดยเฉพาะผลไม้ เช่น ทุเรียนสด 22,122 ล้านบาท เพิ่ม 42.4% มังคุดสด 3,666 ล้านบาท เพิ่ม 131.2% ขณะที่การส่งออกผ่านแดนไปสิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ เพิ่ม 49.4% 72.2% และ 11.1% ตามลำดับ โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 12,911 ล้านบาท เพิ่ม 4.6% ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ 1,128 ล้านบาท เพิ่ม 234.6% และสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพารา เช่น ยางสังเคราะห์ 2,269 ล้านบาท เพิ่ม 58.6%
อย่างไรก็ตาม จากนี้กรมมีแผนที่จะเดินหน้าการทำงานเชิงรุก และจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนต่อไป โดยเตรียมส่งท้ายปี 2568 ด้วยการจัดงานที่ จ.สตูล วันที่ 7–10 ส.ค.2568 ณ บริเวณหน้าวัดมงคลมิ่งเมือง หัวสะพานตายาย จ.สตูล หลังจากวันที่ 22-28 ก.ค.2568 ได้จัดงานที่ จ.เชียงใหม่ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สร้างรายได้จากยอดจำหน่ายสินค้าภายในงานจำนวน 150 คูหา กว่า 9 ล้านบาท และการเจรจาการจับคู่ธุรกิจคาดการณ์ยอดการสั่งซื้อภายใน 1 ปี กว่า 50 ล้านบาท
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง