
สนค.เผยดัชนีราคาผู้ผลิต เดือน ก.ค.68 ลดลง 4.2% จากการลดลงของสินค้าทุกหมวด ทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและประมง จากราคาในประเทศและส่งออกลด ผลิตภัณฑ์จากเหมือง ตามการลดลงของปิโตรเลียมและก๊าซ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จากการลดลงตามราคาตลาดโลก คาด ส.ค.ยังลงต่อ เหตุเจอสินค้าราคาถูกเข้ามาดัมป์ การปรับลดราคาส่งออกชดเชยภาษีสหรัฐฯ ตลาดโลกชะลอตัว น้ำท่วมกระทบการผลิต ปัญหาไทย-กัมพูชา กระทบการค้าชายแดน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีราคาผู้ผลิตของไทย เดือน ก.ค.2568 เท่ากับ 108.5 ลดลง 4.2% มีสาเหตุสำคัญจากราคาสินค้าหมวดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรลดลงจากอุปทานส่วนเกินในประเทศ การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดส่งออกสินค้าเกษตร ต้นทุนการผลิตในภาพรวมที่ลดลงตามราคาพลังงานที่ต่ำกว่าปีก่อน ค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง การแข่งขันด้านราคาจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญ และกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอตามสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า
สำหรับรายละเอียดการลดลงของดัชนีราคาผู้ผลิต พบว่า ผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลด 10.2% จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว จากฐานราคาของปีก่อนที่สูง ประกอบกับการส่งออกในปีนี้หดตัวค่อนข้างมาก อ้อย จากฐานราคาของปีก่อนที่สูง ประกอบกับมีปริมาณผลผลิตมาก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากปริมาณผลผลิตที่มากขึ้นกว่าปีก่อนตามสภาพอากาศที่เหมาะสม หัวมันสำปะหลังสด จากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญที่ลดลงอย่างมาก ตามความต้องการที่ลดลงในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ยางพารา ราคาลดลงตามการชะลอคำสั่งซื้อของตลาดปลายทาง พืชผัก (มะนาว พริก กระเทียม) จากปริมาณผลผลิตที่มากขึ้นกว่าปีก่อนตามสภาพอากาศที่เหมาะสม ผลไม้ (ทุเรียน ลำไย) จากราคาส่งออก ที่หดตัวค่อนข้างมากตามคุณภาพผลผลิตที่ลดลง และโคมีชีวิต จากความต้องการบริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหน้าฟาร์มลดลง
ส่วนสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย ผลปาล์มสด จากปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่มีน้อย ในขณะที่ความต้องการสินค้าเพิ่มจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ สุกรมีชีวิต จากต้นทุนการควบคุมโรคที่สูงขึ้น ประกอบกับความต้องการบริโภคปรับตัวดีขึ้น และกุ้งแวนนาไม จากปริมาณผลผลิตที่ลดลงจากต้นทุนการเพาะเลี้ยงที่สูงขึ้น
หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลด 11.2% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก สินแร่โลหะ (แร่เหล็ก ดีบุก สังกะสี) จากอุปสงค์ชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากการทำเหมือง (เกลือสมุทร) จากผลผลิตที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปริมาณความต้องการชะลอตัวลงส่งผลให้ราคาปรับลดลง
หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลด 2.8% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันหล่อลื่น เนื่องจากเคลื่อนไหวตามทิศทางราคาตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า แผงวงจรพิมพ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำและวงจรรวม Integrated Circuit (IC) อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และอุปกรณ์รับข้อมูล/แสดงผล ปรับตามอุปสงค์ที่ชะลอตัว กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ น้ำตาล มันเส้น แป้งมันสำปะหลัง อาหารสัตว์ ปลาป่น ปลายข้าว ข้าวสารเจ้า และข้าวนึ่ง ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากประกอบกับการแข่งขันด้านราคาของตลาดโลก และกลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ สารพอลิเมอร์และสารเคมีอินทรีย์อื่น ๆ เม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้น ยางสังเคราะห์ ปรับราคาลดลงตามน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบหลัก ขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ และเครื่องประดับ (เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับพลอย) จากอุปสงค์ของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น
นายพูนพงษ์กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ส.ค.2568 มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญจากสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ มีแนวโน้มเข้ามาเพิ่มขึ้นจากการระบายสินค้าอุปทานส่วนเกินของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ กดดันราคาสินค้าของผู้ผลิตในประเทศ การปรับลดราคาสินค้าส่งออกชดเชยอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิต อุปสงค์ของตลาดปลายทางในภาพรวมที่ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการแข่งขันที่สูงขึ้นในการหาตลาดปลายทางใหม่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออก กดดันราคาสินค้าในภาคการส่งออก อุทกภัยทางภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ และความขัดแย้งบริเวณชายแดน ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งการค้าชายแดน การค้าผ่านแดน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่โดยรอบ
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง