​ส่งออก การค้าออนไลน์ ดันดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไตรมาส 2 เพิ่ม 0.2%

img

สนค.เผยดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาส 2 ปี 68 เพิ่มขึ้น 0.2% ชะลอตัวจากไตรมาส 1 โดยมีปัจจัยสำคัญจากภาคส่งออก การค้าออนไลน์ที่ขยายตัว ดันการขนส่งทางถนนเพิ่มขึ้น และยังมีต้นทุนค่าจ้างแรงงานที่ทรงตัวสูง คาดไตรมาส 3 ยังเพิ่มขึ้น แต่ต้องจับตาการแข่งขันของผู้ประกอบการ รัฐดูแลพลังงาน นโยบายภาษีสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกชะลอ ที่จะเป็นตัวกดดัน  
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 เพิ่มขึ้น 0.2% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่เพิ่มขึ้น 2.7% โดยมีปัจจัยสำคัญจากปริมาณการขนส่งสินค้าทางถนนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากความต้องการขนส่งที่ขยายตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะภาคการส่งออก และการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการและปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนยังทรงตัวในระดับสูง จากอัตราค่าจ้างแรงงานในภาคการขนส่ง  
         
ทั้งนี้ ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนที่เพิ่มขึ้น 0.2% มาจากการการสูงขึ้นของหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 0.4% จากการสูงขึ้นของค่าบริการขนส่งสินค้ากลุ่มที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลด 0.3% จากการลดลงของค่าบริการขนส่งสินค้ากลุ่มถ่านหินและลิกไนต์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากการทำเหมือง และหมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลด 2.0% จากการลดลงของค่าบริการขนส่งสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
         
ส่วนดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน แบ่งตามประเภทรถ ไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 0.3% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่เพิ่มขึ้น 1.7% จากการสูงขึ้นของประเภทรถที่บริการขนส่งสินค้า ได้แก่ รถกระบะบรรทุก เพิ่ม 0.5% รถบรรทุกเฉพาะกิจ เพิ่ม 0.6% รถตู้บรรทุก เพิ่ม 0.2% และรถบรรทุกวัสดุอันตราย เพิ่ม 1.2% ส่วนรถบรรทุกของเหลว ลด 0.7% แต่รถพ่วงและกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว ราคาโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง    
         


นายพูนพงษ์กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยอาจได้รับอานิสงส์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการสร้างงาน ส่งผลให้กำลังซื้อภายในประเทศขยายตัว นำไปสู่การขนส่งสินค้าตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานให้เติบโตตามไปด้วย และยังมีการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (พนักงานขับรถบรรทุก) จะเป็นอีกปัจจัยหนุนให้ค่าบริการขนส่งปรับราคาสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันด้านราคาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้ประกอบการขนส่ง มาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานของภาครัฐ ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อาจจะส่งผลให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไม่เป็นไปตามที่คาดได้
         
“ผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ต้องเผชิญกับความท้าทายจากกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน การเปลี่ยนผ่านสู่การขนส่งคาร์บอนเป็นศูนย์ รวมทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่ง ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่ม SME จำเป็นต้องเตรียมการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ด้านโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสร้างความยั่งยืนให้กับภาคโลจิสติกส์ของไทยต่อไป”นายพูนพงษ์กล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง