​กรมทรัพย์สินทางปัญญาเผยผลการทำงานหนักส่งผลดี WEF-IMD-GII จัดอันดับไทยดีขึ้น

img

กรมทรัพย์สินทางปัญญาเผยผลการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ด้วยการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย การปรับปรุงระบบการจดทะเบียนสิทธิบัตรให้รวดเร็วขึ้น การเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการละเมิด ส่งผลให้สถาบันจัดอันดับของโลกประเมินไทยด้านทรัพย์สินทางปัญญาดีขึ้น ทั้ง WEF , IMD และ GII
         
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ผลจากการที่กรมฯ ได้ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ทั้งด้านส่งเสริม คุ้มครอง การป้องกันและปราบปรามการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อรองรับยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 หรือ 4IR ได้ส่งผลให้สถาบันจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศทั่วโลก ได้แก่ World Economic Forum หรือ WEF , International Institute for Management Development หรือ IMD และ The Global Innovation Index หรือ GII ประเมินไทยในด้านทรัพย์สินทางปัญญาดีขึ้น      
         
โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา WEF จัดอันดับ 140 ประเทศทั่วโลก ให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 38 จากเดิมอันดับที่ 40 เมื่อปี 2560 และเป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่มอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยมีตัวชี้วัดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาดีขึ้นทั้ง 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ 1.Intellectual property protection อยู่ในอันดับ 99 จากเดิมอันดับ 106 ดีขึ้น 7 อันดับ 2.คำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ของคนไทยในต่างประเทศต่อประชากรหนึ่งล้านคน (Patent applications /million pop.) อยู่ในอันดับ 68 จากเดิมอันดับ 76 ดีขึ้น 8 อันดับ และ 3.ตัวชี้วัดการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของคนไทยในต่างประเทศต่อประชากรหนึ่งล้านคน (Trademark applications/million pop.) อยู่ในอันดับ 67 จากเดิมอันดับ 74 ดีขึ้น 7 อันดับ
         
ส่วน IMD ที่กำหนดให้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นตัวชี้วัดด้านโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Infrastructure) ในปี 2561 ตัวชี้วัดเกี่ยวกับสิทธิบัตรที่มีพัฒนาการปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ การส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิบัตรของคนไทย รวม 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ 1.Patent Applications อันดับดีขึ้นถึง 13 อันดับ จากอันดับ 52 มาเป็นอันดับ 39 2.Patent applications per capita จากอันดับที่ 60 มาเป็นอันดับที่ 55 และ 3.Number of patents in force จากอันดับ 59 มาเป็นอันดับ 56 ส่วนตัวชี้วัด Patent Grants to resident มีอันดับคงที่อยู่ในอันดับที่ 47
         
ขณะที่การจัดอันดับความสามารถด้านนวัตกรรม หรือ GII ในปี 2561 ไทยได้รับการปรับอันดับดีขึ้นถึง 7 อันดับ จากอันดับที่ 51 มาเป็นอันดับที่ 44 จาก 126 ประเทศทั่วโลก โดยองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ยังได้ระบุว่าไทยเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศ ที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาด้านนวัตกรรม
         
นายทศพลกล่าวว่า ผลจากการจัดอันดับที่ดีขึ้น มาจากการแก้ไขกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้เป็นมาตรฐานสากล ทั้งกฎหมายเครื่องหมายการค้ารองรับการเข้าเป็นพิธีสารมาดริด กฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์ในยุคเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการบางประเภทให้ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกับบุคคลอื่นในการเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ ตามสนธิสัญญามาร์ราเกช และกฎหมายสิทธิบัตรลดขั้นตอนและระยะเวลาการจดสิทธิบัตรให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ตลอดจนบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ เพื่อป้องกันและปราบปราม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง
         
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในปี 2561 กรมฯ ได้รับจดทะเบียนสิทธิบัตร ซึ่งเป็นเป็นหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม จำนวน 3,818 คำขอ เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่รับจดได้ 3,080 คำขอ โดยสิทธิบัตรในกลุ่มสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ ปิโตรเคมี ไฟฟ้า และเภสัชภัณฑ์ มีแนวโน้มรับจดทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit  
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง