นับจากวันที่ 14 ก.ย.2566 ที่ “นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ได้เข้าทำงานที่ “กระทรวงพาณิชย์” อย่างเป็นทางการ และได้มอบ “นโยบายการทำงาน” ให้กับ “ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์” รับไปปฏิบัติ
         
ในครั้งนั้น นายภูมิธรรม ได้กำหนดนโยบายการทำงานไว้ทั้งสิ้น 7 เรื่อง ได้แก่
         
1.นโยบาย “ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” เน้นการรดน้ำที่รากดูแลคนตัวเล็ก

2.บริหารให้เกิดความสมดุล ระหว่างประชาชนผู้บริโภค เกษตรกรผู้ผลิต และผู้ประกอบการภาคธุรกิจ

3.การทำงานเชิงรุกและบูรณาการการทำงานร่วมกัน ของพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์

4.แก้ไขข้อจำกัดของกฎหมาย

5.ร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Digital wallet ให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ

6.เร่งขยับตัวเลขการส่งออก เปลี่ยนจากติดลบให้เป็นบวก

7.ผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จาก FTA รวมทั้งการปรับตัวเพื่อรองรับ และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในมาตรฐานความยั่งยืนที่เป็นกรอบกติกาใหม่ของโลก

นายภูมิธรรม กำชับในการมอบนโยบายไว้ว่า ใน 7 เรื่องหลักนี้ มี “หลายเรื่อง” ที่เป็น “เรื่องเร่งด่วน” และจะต้อง “ทำให้ได้” ภายใน 100 วันแรก ตามนโยบายรัฐบาล ส่วน “การวัดผลความสำเร็จ หรือ KPI” จะวัดจาก “ความพึ่งพอใจ” ของพี่น้องประชาชน



จากวันนั้น จนวันนี้ หนึ่งเรื่องเร่งด่วนที่นายภูมิธรรมกำชับไว้ ก็คือ “การแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน” ดูเหมือนจะมี “ความคืบหน้า” มากที่สุด  
         
ล่าสุด “กรมการค้าภายใน” ได้ทำการวิเคราะห์ “ต้นทุนสินค้า” เป็นรายชนิดน่าจะ “เรียบร้อย” แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการ “เจาะลึก” เป็นรายสินค้าว่า “ตัวไหน-รายการใด” ที่จะ “ปรับลด” ลงมาได้ และจะได้นำข้อมูลนี้ไปหารือกับผู้ประกอบการ
         
ช่วง 7 วันนับจากนี้ จะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่า “ข่าวดี” น่าจะออกมาได้ช่วงต้น เดือน ต.ค.2566 ที่จะถึงนี้
         
อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะรู้ว่า มี “สินค้าใด-รายการไหน” ที่จะ “ลดราคา” ลงมาได้ และถ้า “ไม่ได้” เพราะ “อะไร-ทำไม”  
         
ส่วนเรื่อง “การขับเคลื่อนการส่งออก” เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่มีความคืบหน้า โดย “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ” ได้ทำการ “นัดหมาย” สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และผู้ส่งออกรายสำคัญ มาหารือถึงมาตรการ “ผลักดันการส่งออก” ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ และต่อเนื่องถึงปีหน้าแล้ว

ขณะที่การมี “ส่วนร่วม” ในการขับเคลื่อน “นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต” ของรัฐบาล ก็มีความคืบหน้าไม่แพ้กัน โดยกระทรวงพาณิชย์ พร้อมที่จะ “ผลักดัน” ให้ “ร้านธงฟ้า-ตลาดต้องชม-ศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน-หมู่บ้านทำมาค้าขาย” เป็น “ทางเลือกหนึ่ง” ในการ “จับจ่ายใช้สอย” ของประชาชนที่ได้รับเงินดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งถือเป็นการเตรียมการ “ล่วงหน้า” แม้เงินดิจิทัลจะยังไม่มา
         


สำหรับ “การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ” โดยเฉพาะการเจรจาจัดทำ FTA ฉบับใหม่กับคู่ค้าใหม่ ก็มี “ความคืบหน้า-ลื่นไหล-อยู่ระหว่างการเจรจาอย่างเข้มข้น” และน่าจะปิดดีลได้ “ปีนี้-ปีหน้า” หลายฉบับอยู่ เช่น “ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” ที่จะจบปีนี้ “ไทย-ศรีลังกา” และ “ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA)” จะจบปี 2567 ส่วน “ไทย-สหภาพยุโรป (อียู)” ที่หลายฝ่ายจับตา คาดว่าจะเจรจาจบในปี 2568
         
ส่วน “นโยบายดูแลสินค้าเกษตร” ขณะนี้กรมการค้าภายในกำลังเตรียมการอยู่ โดยเฉพาะพืชหลักอย่าง “ข้าว-มันสำปะหลัง-ข้าวโพด-ปาล์มน้ำมัน-ผลไม้” ที่นโยบายหลัก จะไม่มีทั้ง “จำนำ-ประกันรายได้” ซึ่งต้องติดตามดูต่อไปว่า มาตรการจะออกมารูปแบบไหน เชื่อว่า เร็ว ๆ นี้ น่าจะได้เห็น
         
ทางด้าน “ผลไม้” ทุก ๆ ปี จะมีการเตรียมพร้อม “มาตรการรับมือ” ไว้ล่วงหน้า ปีนี้ ก็น่าจะมีเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่า จะคลอดออกมาได้ภายใน 100 วันหรือไม่ เพราะกว่าฤดูผลไม้จะมา ก็ต้องต้นปีหน้าโน่น
         
จากที่ผู้เขียนได้ “ตรวจสอบ” การขับเคลื่อนนโยบายของนายภูมิธรรมจนถึงขณะนี้ เรื่องที่เป็น “เรื่องเร่งด่วน” มีหลายเรื่องมีความ “คืบหน้า” และหลายเรื่องน่าจะ “ทำสำเร็จ” ได้ก่อน 100 วันด้วยซ้ำ
         
แต่สิ่งที่จะต้อง “จับตา” ก็คือ ผลงานที่ออกมา จะ “ถูกใจ-โดนใจ” พี่น้องประชาชนหรือไม่
         
เพราะนายภูมิธรรม ได้ย้ำไว้ตอนมอบนโยบายว่า การวัด KPI จะไม่ขอวัดเอง จะให้ประชาชนเป็นคนวัด
         
“ดี-ไม่ดี” หรือ “ชอบ-ไม่ชอบ” ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
         
ตอนนี้ ก็ได้แต่ “รอลุ้น” ว่าแต่ละนโยบายเร่งด่วน ที่จะ “ทำคลอด” ออกมาภายใน 100 วันนั้น หน้าตาจะเป็นอย่างไร
         
ไว้ “ถึงเวลานั้น” เรา ๆ ท่าน ๆ ค่อยมา “ให้คะแนนกัน”  
 
ซีเอ็นเอ