ในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา “กระทรวงพาณิชย์” ที่นำทัพโดย “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ได้สร้างผลงาน “โดดเด่น” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า ทั้ง “ในประเทศ” และ “ต่างประเทศ” ออกมาเป็นจำนวนมาก
         
ยกตัวอย่างให้เห็นคร่าว ๆ ก็ “ประกันรายได้” ที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร “มาตรการดูแลผลไม้” ที่ทำให้ผลไม้ราคาดีขึ้นต่อเนื่อง “การดูแลค่าครองชีพ” ที่ดูแลการปรับขึ้นราคาสินค้า ไม่ให้เป็นภาระทุกฝ่ายภายใต้นโยบาย “วินวิน โมเดล” การขับเคลื่อน “การส่งออก” เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ “การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ” และการทำ Mini FTA เพื่อเปิดตลาด “การพัฒนางานบริการต่าง ๆ” ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ “การช่วยเหลือและเพิ่มโอกาสทางการค้า” ให้กับ SMEs และคนตัวเล็ก
         
เอาเป็นว่า “ผลงาน” จริง ๆ มี “มากกว่านี้” ตอนนี้เอาแค่ “น้ำจิ้ม” ไปก่อน ไว้รอนายจุรินทร์ แถลง “ผลงานในรอบปี” น่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนกว่านี้  
         
แต่สิ่งที่อยาก “จะบอก” และ “กล่าวถึง” ในตอนนี้ ก็คือ “สถิติ” ของการสร้าง “ประวัติศาสตร์” ของนายจุรินทร์ ในรอบปีที่ผ่านมา
         
ใครจะไปรู้ว่า ในการ “กุมบันเหียน” และ “ขับเคลื่อน” งานกระทรวงพาณิชย์ รอบปี 2565 นายจุรินทร์ได้สร้างประวัติศาสตร์จนทำให้ต้องมีการ “บันทึก” ไว้หลายต่อหลายครั้ง
         
เท่าที่ “ผู้เขียน” พอจะจำได้ ก็มีมากมายนับไม่ถ้วน  
         
เริ่มจากการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับการส่งออกของไทย คือ “การส่งออกไก่ไทยไปซาอุดิอาระเบีย” ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
         


เรื่องนี้ มี “ที่มาที่ไป” ดังนี้ โดยนายจุรินทร์ บอกว่า เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะต้องฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับซาอุดิอาระเบียให้ได้ และได้เร่งรัดสั่งการให้ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เจรจากับทางการซาอุดิอาระเบีย จนโรงงานไก่ไทยได้รับการรับรอง และสามารถส่งออกได้ในที่สุด และล่าสุด สามารถส่งออกไก่ไปได้ทุกชิ้นส่วน ทั้งสดและแปรรูป
         
ต่อมา ได้สร้างประวัติศาสตร์ทางการค้า ด้วยการ “เปิดเจรจา FTA กับยุโรป” เป็นครั้งแรก
         
โดยนายจุรินทร์ บินข้ามน้ำข้ามทะเล ไปถึงไอซ์แลนด์ และได้เข้าร่วมพิธี “ประกาศ” เริ่มการเจรจา FTA “ไทย-สมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA)” กับ 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ที่ร้านอาหาร “เอ็งแลนดิงกาวิก” ที่เมืองบอร์การ์เนส ไอซ์แลนด์ หลังพยายามกันมานานถึง 20 ปี  
         
จากนั้น ยังสร้างประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยได้จัดทำ “Mini FTA” กับเมืองรองอินเดียได้เป็นครั้งแรก คือ “รัฐเตลังคานา” ตามต่อด้วย “ปูซาน” ของเกาหลีใต้ และ “คยองกี” ของเกาหลีใต้ รวมแล้ว ไทยทำ Mini FTA กับเมืองต่าง ๆ ได้แล้ว 6 ฉบับ โดยมี 3 ฉบับที่ลงนามก่อนหน้านี้ คือ ไทย-โคฟุ , ไทย-ไหหน่าน และไทย-กานซู่
         
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ยังได้สร้างประวัติศาสตร์ เป็น “รัฐมนตรีการค้า” นำ “การประชุมเอเปก” ในรอบ 20 ปี และสามารถผลักดันประเด็นที่ไทยขับเคลื่อน โดยเฉพาะ “BCG Model” และการเดินหน้าสู่ “เขตการค้าเสรีเอเปก (FTAAP” ได้เป็นผลสำเร็จ
         
ช่วงปลาย ๆ ปี นายจุรินทร์ ก็ยังสร้างประวัติศาสตร์ได้อีก โดยสามารถผลักดันให้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มองโกเลีย” ได้เป็นครั้งแรก ผลักดันจัดตั้ง “คณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-ออสเตรีย” ได้เป็นครั้งแรก
         


นี่ยังไม่รวมการสร้างประวัติศาสตร์ปลีกย่อย เช่น การพัฒนา “พันธุ์ข้าวใหม่” เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และการ “ทวงคืน” ตลาดข้าวอิรักกลับคืนมา
         
หรือกระทั่ง “การแต่งตั้งโยกย้าย” ที่ไม่วาย “สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่” ให้กับกระทรวงพาณิชย์ ก็คือ การเสนอแต่งตั้ง “นายกีรติ รัชโน รองปลัดกระทรวงพาณิชย์” เป็น “ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่” ที่เรียกเสียง “ฮือฮา” ด้วยการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งจากรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็น “ครั้งแรก” ของกระทรวงพาณิชย์ จากที่ “ก่อนหน้านี้” ล้วนแต่มีการ “แต่งตั้ง” จากผู้ที่ดำรงตำแหน่ง “อธิบดี” เท่านั้น
         
และยังไม่รวมการผลักดันให้มีการแต่งตั้ง “รองอธิบดี” จากผู้ที่เป็น “พาณิชย์จังหวัด” และจากผู้ที่เป็น “ทูตพาณิชย์” ที่ได้สร้างการ “ขวัญ” และ “กำลังใจ” ให้กับคนทำงาน แม้จะไม่ใช่การสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ก็ตาม
         
ทั้งหมดนี้ คือ “ประวัติศาสตร์” ที่เกิดขึ้นในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา
         
แต่หากรวมตั้งแต่นายจุรินทร์เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมีมากกว่านี้ จึงขอสรุปคร่าว ๆ ไว้เพียงเท่านี้ดีกว่า เพราะเดี๋ยวจะยาวเกินไป
         
จากวันนี้ รัฐบาลชุดนี้ เหลือระยะเวลาการทำงานอีกเพียงราว ๆ 3 เดือน ก็จะครบวาระ ถ้าไม่มีการ “ยุบสภาฯ” ไปก่อน
         
ก็ไม่แน่ว่า ระยะเวลาสั้น ๆ ที่เหลืออยู่ นายจุรินทร์ อาจจะสร้างประวัติศาสตร์อะไรเพิ่มขึ้นอีกก็ได้
         
ต้องจับตาดูกันต่อไป
 
ซีเอ็นเอ