​ปิดฉาก Thailand Rice Convention 2017 ยกระดับความเชื่อมั่นข้าวไทย พร้อมชูก้าวต่อไป เน้นการสร้างนวัตกรรมข้าว

img

ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค.2560 ที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศได้จัดงาน Thailand Rice Convention 2017 หรือ TRC 2017 ภายใต้แนวคิด "RICE PLUS : ข้าวไทย ก้าวใหม่...ด้วยนวัตกรรม" โดยปีนี้ มีผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวจากทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในประเทศและต่างประเทศ กลุ่มผู้นำเข้าข้าว ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมข้าว ผู้แทนการค้าจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศผู้ซื้อ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกที่สำคัญ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ เกษตรกร และสื่อมวลชน



ในการเปิดงาน TRC 2017 เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "การค้าข้าวไทยและทิศทางในอนาคต" ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงทิศทางและนโยบายของรัฐบาลต่ออุตสาหกรรมข้าวไทยที่มุ่งให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐเป็นลำดับแรกๆ เพื่อลดอุปทานข้าวที่กดทับตลาดและภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวในสต็อก โดยได้วางกรอบยุทธศาสตร์และแผนการระบายข้าวในสต็อกของรัฐอย่างรอบคอบ และตั้งเป้าหมายที่จะระบายข้าวที่เหลือให้หมดในช่วงของรัฐบาลนี้ เพื่อให้กลไกตลาดกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายที่จะมุ่งแก้ไขปัญหาข้าวทั้งระบบ ทั้งในด้านการผลิต การค้า และการส่งออก โดยในช่วงที่ผ่านมา ภาครัฐได้ร่วมกันจัดทำแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปรับโครงสร้างการผลิตโดยใช้ตลาดนำ หรือ Demand Driven เพื่อแก้ปัญหาอุปทานส่วนเกิน ส่งเสริมการทำนาแปลงใหญ่เพื่อลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การสร้างความเข็มแข็งและอำนาจต่อรองราคาให้เกษตรกรชาวนา ตลอดจนส่งเสริมการจำหน่ายและการประชาสัมพันธ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะข้าวที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ ข้าวอินทรีย์ ข้าว GI และข้าวสีชนิดต่างๆ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการตลาดระดับบนและตลาดเฉพาะกลุ่มได้ในราคาที่สูงขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้มีการเชื่อมโยงวัฏจักรข้าวไทยกับการท่องเที่ยววิถีชุมชน เพื่อให้ผู้บริโภคได้พบปะชาวนาไทยโดยตรงก่อให้เกิดการกระจายรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น



ไม่เพียงแค่นั้น จากสถานการณ์การค้าโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปรับตัวและสร้างโอกาสทางการค้าให้กับสินค้าข้าวของไทยเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว คือ "นวัตกรรม" โดยต้องนำเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่มาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวไทย เพราะเมื่อมีการนำข้าวไปพัฒนาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ความต้องการใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆ ก็จะเพิ่มขึ้น ชาวนาก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวคือการยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของชาวนาไทยให้ดีขึ้น



ส่วนการประชุมสัมมนาวิชาการ มีผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยและต่างประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการพัฒนาข้าวในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจได้แก่ หัวข้อ "แนวโน้มการค้าข้าวโลก" ได้กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดแนวโน้มการค้าข้าวโลก ได้แก่ อุปสงค์และอุปทาน นโยบายการผลิตและการค้าข้าวของแต่ละประเทศ สภาพแวดล้อมในการเพาะปลูกโดยเฉพาะสภาวะอากาศ สภาพดิน และปริมาณน้ำ ซึ่งมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หัวข้อ "ทิศทางตลาดข้าว และเกษตรปลอดภัยสู่โลกนวัตกรรม" ได้ชี้ให้เห็นว่าตลาดหลักที่มีการเติบโตของการค้าข้าว ได้แก่ ตลาดแอฟริกาและตะวันออกกลาง เนื่องจากมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นและมีกำลังซื้อมากขึ้น สำหรับในตลาดจีนและฮ่องกง ข้าวหอมมะลิไทยกำลังเป็นที่นิยมและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่ประเทศผู้นำเข้าหลัก อาทิ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้ดำเนินนโยบายพึ่งพาตนเองโดยการเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวภายในประเทศให้มากขึ้นเพื่อลดการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน ได้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องการยกระดับอุตสาหกรรมข้าวไทยว่า ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมข้าวต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้นเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวให้มีความยั่งยืน และภาครัฐต้องถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกร ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการพัฒนาตนเอง สนับสนุนการสร้างนวัตกรรม และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้ในคุณค่าที่หลากหลายของข้าวอย่างต่อเนื่อง และหัวข้อสุดท้าย คือ "นวัตกรรมข้าว...ก้าวต่อไปของข้าวไทย" ได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับการพัฒนาข้าวไทยอย่างยั่งยืนด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม ทั้งในด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าว การพัฒนากระบวนการและเทคโนโลยีการผลิต การแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหาร โดยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวที่มีศักยภาพทางการตลาดในขณะนี้ อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากน้ำมันรำข้าว และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน



นอกเหนือจากการประชุมทางวิชาการ ยังมีการจัดนิทรรศการ "Rice Plus : ข้าวไทย ก้าวใหม่...ด้วยนวัตกรรม" ณ ลานอีเดน 3 บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม และนำไปสู่การเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างผู้นำเข้าและผู้ส่งออกของไทย โดยผู้เข้าชมงานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้สัมผัสมิติใหม่ของข้าวไทยอย่างใกล้ชิด และได้ตระหนักว่าทุกวันนี้ ข้าวไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารจานหลักที่ใช้บริโภคโดยตรงเท่านั้น แต่มีการพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายด้วย ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์อุปโภค อาทิ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงามและสุขภาพ เวชภัณฑ์และวัสดุวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์



พร้อมกันนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้โอกาสนี้พบหารือและเจรจาการค้าระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้บริหารระดับสูงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าสาธารณรัฐอิรักพร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงาน Grain Board ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวของอิรัก เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันและขยายโอกาสในการส่งออกข้าวไทยไปยังอิรักในอนาคต และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของเวียดนามยังได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้บริหารระดับสูง เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีและสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศที่มีมายาวนานกว่าทศวรรษให้ยั่นยืนต่อไป



การจัดงาน TRC 2017 ในปีนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านการผลิตและการส่งออกข้าวคุณภาพดีในเวทีโลกแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพลิกโฉมข้าวไทยด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาข้าวไทยอย่างยั่งยืน โดยผู้เข้าร่วมงานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติต่างแสดงความชื่นชมว่าไทยจัดงานครั้งนี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีของผู้นำในวงการค้าข้าวโลก กิจกรรมในงานสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของข้าวไทยในด้านต่างๆ ทั้งในเรื่องของสายพันธุ์ข้าว กระบวนการผลิต และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาต่อยอดให้สินค้าข้าวกลายเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวที่สามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดได้อย่างมหาศาล ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของข้าวไทยที่จะก้าวต่อไปในอนาคต 

 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง