“ศุภจี”นำทีมพาณิชย์หารือประธานสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย เห็นพ้องสนับสนุนภาคเอกชนสองฝ่ายร่วมมือกันขับเคลื่อนการค้า การลงทุน ผลักดันเพิ่มกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ ชวนเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับ Mr. Hassan bin Moajeb Al-Huwaizi ประธานสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเห็นพ้องกันว่าภาคเอกชนเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนเต็มที่ และในช่วงที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจของทั้งสองฝ่ายมีพัฒนาการเป็นอย่างมาก มีการเดินทางเยือน การจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการค้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความสนใจในการขยายการค้าสินค้าและบริการระหว่างกันเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ตนได้ใช้โอกาสนี้ เชิญประธานสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมงาน Thailand International Mega Fair 2025 ซึ่งภาคเอกชนไทยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7–9 ธ.ค.2568 ที่กรุงริยาด ณ Riyadh International Convention and Exhibition Center โดยงานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าและบริการไทยที่ใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบียครอบคลุมหลากหลายสาขาศักยภาพของไทย อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม น้ำมันกฤษณาและเครื่องหอม สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าและบริการสุขภาพ การก่อสร้างและการตกแต่ง การท่องเที่ยวและการบริการ
ขณะเดียวกัน ได้กล่าวสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Riyadh World Expo 2030 ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย พร้อมทั้งได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านเกษตรและอาหารฮาลาล การท่องเที่ยว และบริการสุขภาพ

“ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะผลักดันความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนให้มีความก้าวหน้า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เกิดจากโครงการขนาดใหญ่ภายใต้วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 ซึ่งเปิดช่องให้สินค้าและบริการของไทยมีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร อาหารฮาลาล วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงภาคธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม สปา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และโรงพยาบาล จึงเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศผ่านการกระชับความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน”นางศุภจีกล่าว
นอกจากนี้ ตนได้รับฟังข้อคิดเห็นจากภาคเอกชนซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับแนวทางอำนวยความสะดวกการค้า การแก้ไขปัญหาอุปสรรค และการเพิ่มกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายภาคธุรกิจ ตลอดจนเชิญชวนนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นทั้งในไทยและซาอุดีอาระเบีย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางศุภจีได้เข้าเยี่ยมชม 20 บูธของผู้ประกอบการไทย ที่นำสินค้าและบริการไปนำเสนอแก่ผู้ซื้อซาอุดีอาระเบีย ทั้งสินค้าอาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม สินค้าไลฟ์สไตล์ และบริการด้านท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าซาอุดิอาระเบียเป็นอย่างมาก โดยผู้ประกอบการไทยหลายรายมีกิจกรรม Business Matching กับคู่ค้าท้องถิ่น และมีแนวโน้มที่จะเกิดการสั่งซื้อในหลายหมวดสินค้า
ในปี 2567 ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 19 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีมูลค่าการค้ารวม 7,757.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออก 2,856.68ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้า 4,900.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 9 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าระหว่างกันมีมูลค่า 5,815.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทย 1,949.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 3,866.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกดาวรุ่ง ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องจักรกล ในขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ ปุ๋ย เคมีภัณฑ์ และก๊าซธรรมชาติ

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

