กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) จัดอบรมการขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรระหว่างประเทศ ภายใต้ระบบ PCT ให้กับเอกชน สถาบันการศึกษา ที่ปรึกษากฎหมาย นักประดิษฐ์ เผยสามารถยื่นจดที่ไทย แต่ขอรับความคุ้มครองได้มากถึง 158 ประเทศทั่วโลก ล่าสุดมีผู้ประกอบการไทยยื่นจดผ่านระบบแล้ว 1,100 คำขอ PTTGC แชมป์ ตามด้วย สวทช. และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) จัดอบรมการขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรระหว่างประเทศ ภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (Patent Cooperation Treaty : PCT) ให้กับภาคเอกชน สถาบันการศึกษา บริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมาย นักประดิษฐ์นักสร้างสรรค์ และผู้ปฏิบัติงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในกระบวนการยื่นจดสิทธิบัตรในต่างประเทศผ่านระบบ PCT และส่งเสริมการเข้าถึงบริการ ePCT ซึ่งเป็นระบบยื่นคำขอออนไลน์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การจดสิทธิบัตรในต่างประเทศรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและปลดล็อกศักยภาพนวัตกรรมของคนไทยก้าวสู่ตลาดโลก
สำหรับระบบ PCT คือ ระบบอำนวยความสะดวกในการยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรระหว่างประเทศ ภายใต้การกำกับดูแลของ WIPO โดยผู้ที่ต้องการจดสิทธิบัตรในต่างประเทศสามารถยื่นคำขอเพียงครั้งเดียว แต่เลือกขอรับความคุ้มครองได้หลายประเทศ จากทั้งหมด 158 ประเทศที่เป็นภาคีสมาชิกสนธิสัญญา ซึ่งครอบคลุมตลาดสำคัญของไทย อาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการยื่นคำขอ โดยไม่ต้องแยกจดทะเบียนทีละประเทศ

โดยนับตั้งแต่ไทยเข้าร่วมภาคีสนธิสัญญา PCT ในปี 2552 มีผู้ประกอบการไทยนำนวัตกรรมไปจดสิทธิบัตรในประเทศต่าง ๆ ผ่านระบบ PCT มากกว่า 1,100 คำขอ โดย 72% เป็นการยื่นจดทะเบียนในนามนิติบุคคล ซึ่งหน่วยงานไทยที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรผ่านระบบ PCT มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC 2.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ 3.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับประเทศที่คนไทยยื่นขอจดสิทธิบัตรผ่านระบบ PCT มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ญี่ปุ่น 2.สหภาพยุโรป และ 3.สหรัฐอเมริกา และเทคโนโลยีที่คนไทยยื่นคำขอ PCT มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.เครื่องจักรกลไฟฟ้า อุปกรณ์ พลังงาน 2.เคมีแมคโครโมเลกุล พอลิเมอร์ และ 3.เคมีวัสดุพื้นฐาน ตามลำดับ
ส่วนยื่นคำขอ PCT ผ่านช่องทางอิเล็กทรอกนิกส์ หรือ ePCT ปัจจุบันได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมสูงสุดถึง 13,000 บาทต่อคำขอ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกรมและ WIPO ที่จะสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยใช้บริการ ePCT มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยยื่นคำขอผ่านช่องทาง ePCT กว่า 80% ของคำขอ PCT ทั้งหมด โดยกรมตั้งเป้าผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยยื่นจดสิทธิบัตรในต่างประเทศผ่านช่องทาง ePCT ให้ได้ 100% และมีจำนวนคำขอ PCT ไม่น้อยกว่า 100 คำขอต่อปี เพื่อขยายขอบเขตการคุ้มครองนวัตกรรมของคนไทยในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม การยื่นจดสิทธิบัตรผ่านระบบ PCT เป็นเพียงขั้นตอนแรกในการยื่นคำขอเท่านั้น การได้รับสิทธิบัตรหรือไม่ ยังคงขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศที่ขอรับความคุ้มครอง โดยผู้ยื่นจะมีเวลาเตรียมความพร้อมทางธุรกิจและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ก่อนเข้าสู่กระบวนการจดทะเบียนในประเทศปลายทางอย่างเป็นทางการต่อไป
ปัจจุบันระบบ PCT ได้รับความนิยมทั่วโลก แต่ละปีมีผู้ยื่นคำขอ PCT มากกว่า 270,000 คำขอ ในจำนวนนี้มีคำขอที่ยื่นจดสิทธิบัตรในไทยประมาณปีละ 7,000 คำขอ หรือคิดเป็น 75% ของคำขอรับสิทธิบัตรในไทยทั้งหมด สำหรับประเทศที่ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรในไทยผ่านระบบ PCT สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 37% สหรัฐอเมริกา 20% และจีน 12% ตามลำดับ

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

