กรมการค้าภายในเกาะติดสถานการณ์การจำหน่ายชุดดำ และต้นทุนการผลิตอย่างใกล้ชิด ป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา เอาเปรียบประชาชน พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ร้านค้า ห้าง แพลตฟอร์มออนไลน์ ขายในราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับต้นทุน และปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ย้ำหากพบการทำผิด จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน (DIT) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทำให้ความต้องการจัดหาชุดดำและเสื้อผ้าโทนไว้ทุกข์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ว่า ได้เร่งติดตามสถานการณ์ด้านราคาและต้นทุนสินค้าอย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือจำหน่ายสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภค พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และแพลตฟอร์มออนไลน์ จำหน่ายสินค้าในราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับต้นทุนจริง และต้องแสดงป้ายราคาชัดเจนทุกชิ้น ทุกช่องทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อได้อย่างโปร่งใส
ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ล่าสุด พบว่า ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับการผลิตเสื้อสีดำ ไม่มีการปรับเพิ่ม โดยผ้า TC ซึ่งใช้ในการผลิตเสื้อโปโลและผ้ายืด ยังคงมีราคาทรงตัวที่ประมาณ 40 บาทต่อหลา ขณะที่ผ้ายืดสำเร็จรูปอยู่ที่ 180–400 บาทต่อกิโลกรัม (หนึ่งกิโลกรัมผลิตเสื้อได้ประมาณ 3 ตัว) และมีปริมาณสต๊อกเพียงพอต่อความต้องการของโรงงานผู้ผลิต

ด้านการจำหน่ายสินค้าในตลาด พบว่า มีเพียงพอกับความต้องการ โดยผู้ผลิตรายใหญ่และร้านค้าส่ง ยังคงราคาจำหน่ายส่ง อยู่ในช่วง 100–400 บาทต่อชิ้น ตามแบบ และคุณภาพของผ้า ส่วนห้างค้าปลีก รายงานว่ายังไม่มีการปรับขึ้นราคา โดยเสื้อคอกลมจำหน่ายที่ 199–299 บาท เสื้อโปโล 299–359 บาท และเสื้อเชิ้ตแขนยาว 399–499 บาท และพร้อมเตรียมจำหน่ายในโครงการคนละครึ่ง พลัส ในราคาสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2568 เป็นต้นไปด้วย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในช่วงเวลาสำคัญ
นายวิทยากรกล่าวว่า กรมได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผ่านสายด่วน 1569 เกี่ยวกับร้านค้าจำหน่ายชุดดำในราคาสูงขึ้น 1 ราย ในพื้นที่ตลาดโบ๊เบ๊ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบตลาด ร้านค้าจำหน่ายเสื้อผ้า และช่องทางออนไลน์ทั่วประเทศ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 กรณีไม่ปิดป้ายราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากจำหน่ายในราคาที่สูงเกินสมควรหรือเอาเปรียบผู้บริโภค มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีกักตุนสินค้าเพื่อหวังผลกำไร มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดหาชุดดำและเสื้อผ้าโทนไว้ทุกข์ได้ในราคาที่เป็นธรรม มีทางเลือกหลากหลาย ทั้งจากหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ พร้อมสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะไม่ถูกเอาเปรียบจากสถานการณ์ปัจจุบัน”นายวิทยากรกล่าว

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

