​กรมทรัพย์สินทางปัญญาลุยเฟ้นหาสินค้า GI ใหม่ เสริมแกร่ง SME ด้วยไอพี-นวัตกรรม

img

กรมทรัพย์สินทางปัญญารับลูก “ศุภจี” เดินหน้าเฟ้นหาสินค้าคุณภาพที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น ผลักดันขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ พร้อมเร่งรัดว่าที่สินค้า GI ให้ขึ้นทะเบียนได้โดยเร็ว และจับมือทูตพาณิชย์ขยายตลาดสู่สากล เผยยังจะนำทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม ช่วยเสริมแกร่งการทำธุรกิจให้กับ SME ด้วย
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้รับนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจะร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัด เดินหน้าเฟ้นหาสินค้าคุณภาพที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น เพื่อผลักดันขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ ๆ และเร่งรัดการขึ้นทะเบียนว่าที่สินค้า GI จำนวน 5 รายการ ได้แก่ ทุเรียนชุมพร กกเหล่าพัฒนา (นครพนม) ไก่เบตงยะลา ผ้าทอนาหมื่นศรี (ตรัง) และมะยงชิดแม่ย่าสุโขทัย พร้อมประสานความร่วมมือกับทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ ร่วมวิเคราะห์ตลาดเป้าหมาย เพื่อร่วมกันส่งเสริมการขยายตลาดสินค้า GI ไทยสู่สากล
         
“รัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ผลักดันเพิ่มจำนวนสินค้า GI ไทยให้มีมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้า GI ซึ่งถือเป็นของดีประจำถิ่น โดยที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น GI สามารถเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าสินค้าทั่วไปถึง 2-5 เท่า อาทิ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง จาก จ.นครศรีธรรมราช ราคาขายก่อนเป็น GI อยู่ที่ลูกละ 100–200 บาท แต่เมื่อได้เป็น GI แล้ว ราคาขายอยู่ที่ลูกละ 300–500 บาท”นางอรมนกล่าว
         


ปัจจุบัน มีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จำนวน 239 สินค้า ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในปี 2568 กว่า 82,000 ล้านบาท
         
นางอรมนกล่าวว่า กรมยังจะเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SME ที่สภาพแวดล้อมในยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีปัจจัยกระทบรอบด้าน ทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยในการตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ได้ โดยกรมจะดำเนินกิจกรรมเชิงรุกเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมการนำนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ประโยชน์ และตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งผลักดันให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้เป็นกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้าและสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ SME ต่อไป

“กรมจะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติทันที โดยจัดทำแผนงานที่ตอบโจทย์นโยบายเร่งด่วน ทั้งด้านการส่งเสริมการพัฒนา GI การจับคู่นวัตกรรมที่เหมาะสมให้ผู้ประกอบการ และการบ่มเพาะผู้ประกอบการ SME ให้เข้มแข็ง ผ่านการใช้ประโยชน์จากระบบทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และเสริมความสามารถการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน”นางอรมนกล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง