​DITP ประกาศพร้อมจัดงาน Thai Music Meetup–Gan Bei บูมเพลงไทยในไต้หวัน

img

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ประกาศความพร้อมจัดงาน Thai Music Meetup–Gan Bei ที่ไต้หวัน เตรียมจัดเวทีเจรจาธุรกิจ สร้างเครือข่ายพันธมิตร ร่วมมือการค้า ตั้งเป้าผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีไทยเข้าสู่ตลาดไต้หวัน หลังเพลงไทย ศิลปินไทย ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทภายใน 5 ปี  

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “Thai Music Meetup–Gan Bei” กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมดนตรีของไทยในไต้หวัน ภายใต้โครงการผลักดัน Soft Power ผ่านธุรกิจบริการศักยภาพ ว่า กรมได้กำหนดจัดงานดังกล่าว ในวันที่ 17 ก.ย.2568 ที่ไต้หวัน มีเป้าหมายส่งเสริมการเจรจาธุรกิจ การสร้างเครือข่ายพันธมิตร และความร่วมมือทางการค้ากับต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้จัดเทศกาลดนตรี ผู้นำเข้าศิลปินไทย เพื่อเพิ่มโอกาสการการผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีไทยเข้าสู่ตลาดต่างประเทศอย่างยั่งยืน

การจัดงาน Thai Music Meetup–Gan Bei เนื่องจากไต้หวันมีประชากรมากกว่า 23 ล้านคน มีแนวโน้มการเติบโตของตลาดดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเพลงดิจิทัล คาดว่า ภายในปี 2568 จะมีมูลค่าสูงถึง 1.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45,000 ล้านบาท) โดย 88% ของรายได้มาจาก Music Streaming และศิลปินไทยมียอดรับฟังจากผู้ใช้งานในไต้หวันสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในเอเชีย มีการสร้างกระแส (Buzz) พร้อมการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นระบบผ่านสื่อออนไลน์ วิทยุ โทรทัศน์ และโซเชียลมีเดีย ซึ่งช่วยกระตุ้นการรับรู้ สร้างฐานแฟนคลับ และสร้าง Country of Origin Branding ให้ศิลปินไทยเป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่อง และเป็นตัวแทนในการส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีนานาชาติ



ทั้งนี้ กรมคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาทภายใน 5 ปี และยังช่วยผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีไทย ให้สามารถเปิดตัวเข้าสู่ตลาดไต้หวันได้เพิ่มมากขึ้น  

นายนัดส์ เจดีย์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ลาวด์ลี่ พรีเฟอร์ จำกัด กล่าวว่า การสนับสนุนศิลปินไทยไปแสดงในต่างประเทศ เป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีไทยสู่เวทีโลก ทั้งการสร้างฐานแฟนเพลงใหม่และการเปิดตลาดสากล โดยอุตสาหกรรมดนตรีไทยมีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ระดับโลก แต่ก็เผชิญกับอุปสรรคบางประการ โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านการเดินทาง การขอวีซ่า และภาษา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ศิลปินไทยต้องเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากภาครัฐและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ก็จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและโอกาสในการขยายผลงานสู่เวทีโลกได้อย่างยั่งยืน
         
ข้อมูลล่าสุดจาก IFPI Global Music Report 2024 สะท้อนชัดว่า อุตสาหกรรมดนตรีของไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง ในปี 2567 รายได้จากอุตสาหกรรมดนตรีโลกมีมูลค่ากว่า 28.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และยังคงเติบโตต่อเนื่องปีละกว่า 10% สำหรับไทย อุตสาหกรรมดนตรีมีมูลค่าตลาดกว่า 107 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.1% และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีรายได้จากอุตสาหกรรมเพลงติดอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 5 ของเอเชีย และอันดับที่ 26 ของโลก ซึ่งสะท้อนว่า อุตสาหกรรมดนตรีของไทยกำลังก้าวสู่บทบาทสำคัญในฐานะ Soft Power ที่สร้างทั้งรายได้ทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ที่น่าภาคภูมิใจ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง