​ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค.68 ลดลง คนกังวลเศรษฐกิจ หนี้ เกษตรแข่งขันสูง

img

สนค.เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือน ส.ค.68 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 47.9 เหตุคนกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจ ภาระหนี้สิน ภาษีสหรัฐฯ สินค้าเกษตรเผชิญการแข่งขัน การท่องเที่ยวชะลอตัว และความตรึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา มั่นใจ 3 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้น หลังรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ส่งออกยังขยายตัว แต่ต้องจับตาปัญหากัมพูชา ภัยธรรมชาติ เป็นตัวฉุด
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 5,717 ราย ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือน ส.ค.2568 ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จากเดือน ก.ค.2568 ที่อยู่ที่ 48.4 มีสาเหตุจากความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ประชาชนมีความกังวลต่อภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายของครัวเรือนและธุรกิจ นโยบายการค้าและภาษีของประเทศคู่ค้าหลัก สินค้าเกษตรไทยที่เผชิญกับการแข่งขันสูงในตลาดโลก ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวส่งผลต่อรายได้ของธุรกิจบริการ และสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา
         
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) อยู่ในช่วงเชื่อมั่นที่ระดับ 53.7 แม้จะปรับตัวลดลง
จากระดับ 54.2 ในเดือนก่อนหน้า โดยปัจจัยที่ทำให้ประชาชนยังมีความเชื่อมั่นในอนาคต มาจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 1.50% ต่อปี เพื่อบรรเทาภาระของประชาชนและภาคธุรกิจ และการส่งออกยังขยายตัวได้ดี แต่ก็มีประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา และภัยธรรมชาติในบางพื้นที่ ซึ่งอาจจะเป็นแรงกดดันที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระยะต่อไป
         


ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค พบว่า ด้านเศรษฐกิจไทยส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 48.15 รองลงมา คือ มาตรการของภาครัฐ ร้อยละ 12.89 สังคม/ความมั่นคง ร้อยละ 10.93 ราคาสินค้าเกษตร ร้อยละ 8.50 เศรษฐกิจโลก ร้อยละ 8.05 การเมือง ร้อยละ 7.45 ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 1.91 ภัยพิบัติ/โรคระบาด ร้อยละ 1.52 และอื่น ๆ ร้อยละ 0.60 ตามลำดับ
         
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจำแนกรายภูมิภาค จำนวน 5 ภูมิภาค พบว่า ดัชนีอยู่ในช่วงเชื่อมั่น 1 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 50.4 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 48.8 ภาคกลาง อยู่ที่ระดับ 46.7 และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 46.0 ซึ่งแม้อยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของภาคเหนือลดลง อยู่ที่ระดับ 45.8 จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่
         
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจำแนกรายอาชีพ จำนวน 7 อาชีพ พบว่า มี 1 กลุ่มอาชีพที่ดัชนีอยู่ในช่วงเชื่อมั่น ได้แก่ พนักงานของรัฐ อยู่ที่ระดับ 52.0 ในขณะที่มี 6 กลุ่มอาชีพที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น โดยผู้ประกอบการ อยู่ที่ระดับ 49.0 นักศึกษา อยู่ที่ระดับ 48.9 พนักงานเอกชน อยู่ที่ระดับ 47.5 อาชีพรับจ้างอิสระ อยู่ที่ระดับ 46.5 เกษตรกร อยู่ที่ระดับ 46.4 และไม่ได้ทำงาน/บำนาญ อยู่ที่ระดับ 45.8 สำหรับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังอยู่ต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น โดยอยู่ที่ระดับ 37.1 แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง