​“พิชัย”ถกรัฐมนตรีกลุ่มแครนส์ ผนึกกำลังผลักดันการเจรจาสินค้าเกษตรใน WTO

img

“พิชัย”ร่วมถก 20 รัฐมนตรีจากประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรชั้นนำโลก (กลุ่มแครนส์) ที่กรุงปารีส ร่วมกันแสดงจุดยืนผ่านแถลงการณ์ ผลักดันการเจรจาสินค้าเกษตรภายใต้ WTO ให้มีความคืบหน้า ทั้งการเปิดตลาด การลดการอุดหนุน และการแข่งขันการส่งออกอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ให้มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรมในการประชุมรัฐมนตรี WTO เดือน มี.ค.69
         
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลุ่มแครนส์ (Cairns Group Ministerial Meeting) ครั้งที่ 44 ณ สำนักงานองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) กรุงปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นควบคู่กับการประชุมใหญ่ OECD โดยมีรัฐมนตรีจากประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เพื่อหารือแนวทางการปฏิรูปกติกาการค้าสินค้าเกษตรโลกให้มีความเป็นธรรม โปร่งใส และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
         
โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นเวทีสำคัญที่ประเทศสมาชิกกลุ่มแครนส์ได้ร่วมกันแสดงจุดยืนผ่านแถลงการณ์ร่วม เพื่อเร่งผลักดันการเจรจาภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ให้มีความก้าวหน้า โดยเฉพาะใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.การเปิดตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของสินค้าเกษตรจากประเทศผู้ส่งออก 2.การลดการอุดหนุนภายในประเทศ ที่บิดเบือนกลไกการค้า 3.   การแข่งขันด้านการส่งออกอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส ซึ่งเป้าหมาย คือ ให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรมในการประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 14 ที่จะจัดขึ้นในเดือน มี.ค.2569 ณ สาธารณรัฐแคเมอรูน
         
“ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งโลกร้อน โรคระบาด ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ และการกีดกันทางการค้า ไทยเห็นความสำคัญของความร่วมมือในเวทีพหุภาคี เพื่อสร้างระบบการค้าที่เป็นธรรมและยั่งยืน โดยเฉพาะในภาคเกษตร ซึ่งกระทบต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคทั่วโลก”นายพิชัยกล่าว
         


นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือแนวทางการทำงานเชิงรุกของกลุ่มแครนส์ในอนาคต โดยเน้นการสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีผลประโยชน์ร่วม เช่น กลุ่มแอฟริกา เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิรูปที่สมดุล ครอบคลุม และตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ วิกฤติอาหาร ความมั่นคงทางโภชนาการ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
         
กลุ่มแครนส์เป็นการรวมตัวของ 20 ประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรชั้นนำของโลก ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ชิลี โคลอมเบีย คอสตาริกา กัวเตมาลา อินโดนีเซีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ปารากวัย เปรู ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ อุรุกวัย เวียดนาม ยูเครน และไทย มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อผลักดันให้เกิดระบบการค้าสินค้าเกษตรที่เสรี เป็นธรรม และสร้างผลประโยชน์ที่แท้จริงให้กับเกษตรกรและผู้บริโภคทั่วโลก
         
ในช่วงปี 2563–2567 มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรและอาหารของโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 7.12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยกลุ่มแครนส์มีมูลค่าการค้ารวมเฉลี่ยปีละ 754,995 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 10.6% ของการค้าสินค้าเกษตรโลก สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มแครนส์ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า การส่งออก ไทยส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังสมาชิกกลุ่มแครนส์เฉลี่ยปีละ 8,121.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 19.57% ของมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรของไทย ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซีย สัดส่วน 34.20% มาเลเซีย สัดส่วน 16.36% เวียดนาม สัดส่วน 11.70% สินค้าสำคัญ ได้แก่น้ำตาล ข้าว อาหารสัตว์ เครื่องดื่ม และซอสปรุงรส และไทยนำเข้าสินค้าเกษตรจากกลุ่มแครนส์เฉลี่ยปีละ 8,131.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 42.46% ของมูลค่านำเข้าของไทยในกลุ่มสินค้าเกษตร แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ บราซิล สัดส่วน 15.52% ออสเตรเลีย 5.32% เวียดนาม สัดส่วน 4.74% สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง ข้าวสาลี นมผง มะพร้าว เมล็ดกาแฟ และผลิตภัณฑ์

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง