อาเซียนชงผลทำงานด้านเศรษฐกิจ ดันร่วมมืออ่าวอาหรับ ให้ผู้นำพิจารณา 26-27 พ.ค.นี้

img

“พิชัย”เข้าร่วมประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รับทราบความผันผวนเศรษฐกิจโลก จับมือเจรจาสหรัฐฯ อย่างสร้างสรรค์ สรุปผลงานเสาเศรษฐกิจ ทั้งแผนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนฉบับใหม่ มุ่งคาร์บอน เชื่อมโยงเครือข่ายไฟฟ้า เศรษฐกิจดิจิทัล ความร่วมมืออ่าวอาหรับ ชงผู้นำ 26-27 พ.ค.นี้
         
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Council : AEC Council) ครั้งที่ 25 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมี H.E. Senator Tengku Datuk Seri Utama Zafrul Tengku Abdul Aziz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย เป็นประธาน ซึ่งเป็นการประชุมรัฐมนตรีของเสาเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมเสนอผลงานสำคัญต่อการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46 ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค.2568 นี้
         
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ความผันผวนเศรษฐกิจโลก แต่ภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนยังขยายตัวในเชิงบวกถึง 4.8% ในปี 2567 ซึ่งเป็นผลจากการค้าภายในเพิ่มขึ้นถึง 8.4% และการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า ดาต้าเซ็นเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ ก็เพิ่มขึ้น และยังได้หารือถึงแนวทางการรับมือความเสี่ยงจากภูมิเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งมีผลต่อห่วงโซ่การค้าและการส่งออกของอาเซียน
         


“ไทยได้สนับสนุนการมีท่าทีร่วมของอาเซียนในการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างสร้างสรรค์และสมดุล รวมถึงผลักดันความร่วมมือกับสหรัฐฯ แบบรวมกลุ่ม คู่ขนานกับการดำเนินการของแต่ละประเทศ พร้อมสนับสนุนคณะทำงานด้านภูมิเศรษฐศาสตร์อาเซียน ให้เป็นกลไกวางแนวยุทธศาสตร์รองรับความเสี่ยงในระยะยาว”
         
นายพิชัยกล่าวว่า ที่ประชุมได้สรุปผลงานสำคัญของเสาเศรษฐกิจเพื่อรายงานต่อผู้นำอาเซียน อาทิ แผนยุทธศาสตร์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนฉบับใหม่ การมุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียนเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และการบูรณาการเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการเจรจากรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) และการพัฒนาหมายเลขทะเบียนนิติบุคคลอาเซียน (UBIN) การพัฒนาระบบ ASEAN Single Window เวอร์ชันใหม่ การเชื่อมโยงระบบชำระเงินระหว่างประเทศ และการพัฒนามาตรฐานการค้าดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้าข้ามแดน ดึงดูดการลงทุน และเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของอาเซียนในยุคดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น
         
นอกจากนี้ ได้เตรียมเสนอผู้นำรับรองปฏิญญาความร่วมมือเศรษฐกิจกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) เพื่อเปิดตลาดใหม่และเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยไทยหนุนแนวทางนี้ เพราะช่วยกระจายความเสี่ยง ดึงโอกาสการค้า ลงทุนในพลังงาน เทคโนโลยี เกษตร และบริการ และเห็นว่า GCC จะเป็นหุ้นส่วนสำคัญของอาเซียนในตะวันออกกลาง และมีบทบาทต่อการกระจายห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง