ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เม.ย.68 เพิ่ม 0.8% ตามการขยายตัวโครงการก่อสร้างภาครัฐ

img

สนค.เผยดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือน เม.ย.68 เพิ่ม 0.8% ขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือนติด จากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ทั้งใหม่และต่อเนื่อง และยังมีความต้องการใช้ซ่อมแซมอาคารและที่อยู่อาศัย คาด พ.ค. ขยับต่อ เหตุมีการเร่งรัดโครงการก่อสร้าง มาตการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดดอกเบี้ย ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์พื้นตัว
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน เม.ย.2568 เท่ากับ 113.1 เพิ่ม 0.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 มีสาเหตุมาจากความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งโครงการใหม่และโครงการต่อเนื่อง และยังมีความต้องการใช้ในการซ่อมแซมอาคารและที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น หลังจากได้รับความเสียหายจากการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว
         
สำหรับรายละเอียดดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น มาจากหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เพิ่ม 0.9% จากการสูงขึ้นของไม้พื้น ไม้แบบ วงกบประตู และวงกบหน้าต่าง จากความต้องการใช้ที่ขยายตัวทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดีเซลที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา หมวดซีเมนต์ เพิ่ม 4.1% จากการสูงขึ้นของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนซีเมนต์ผสม และปูนฉาบสำเร็จรูป จากความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างภาครัฐ และการซ่อมแซมอาคารที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น

หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต เพิ่ม 1.1% จากการสูงขึ้นของเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง และคอนกรีตผสมเสร็จ เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นทั้งค่าขนส่ง (น้ำมันดีเซล) และราคาวัตถุดิบสำคัญ (ปูนซีเมนต์ ทราย) หมวดวัสดุฉาบผิว เพิ่ม 0.2% จากการสูงขึ้นของสีทาถนนชนิดสะท้อนแสง และน้ำมันเคลือบแข็งภายในและภายนอก เนื่องจากมีความต้องการใช้ในการก่อสร้างด้านคมนาคมและการซ่อมแซมถนนของภาครัฐเพิ่มขึ้น



หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา เพิ่ม 2.1% จากการสูงขึ้นของสายไฟฟ้า VCT สายส่งกำลังไฟฟ้า NYY เครื่องตัดไฟอัตโนมัติ ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (ทองแดง) และถังบำบัดน้ำเสียระบบไม่อัดอากาศที่สูงขึ้นจากต้นทุนราคาวัตถุดิบประเภทหัวเชื้อ รวมทั้งมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ เพิ่ม 5.9% จากการสูงขึ้นของยางมะตอย และวัสดุธรรมชาติ (หิน ดิน ทราย) เนื่องจากมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างด้านคมนาคมของภาครัฐเพิ่มขึ้น       

ส่วนหมวดสินค้าสำคัญที่ดัชนีราคาลดลง ได้แก่ หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลด 2.6% จากการลดลงของเหล็กเส้นกลมผิวเรียบ เหล็กเส้นกลมผิวข้ออ้อย เหล็กตัว H และท่อเหล็กดำ เนื่องจากมีอุปทานเหล็กในตลาดสูง และราคาวัตถุดิบลดลง (บิลเล็ต เศษเหล็ก)  หมวดกระเบื้อง ลด 1.2% จากการลดลงของกระเบื้องคอนกรีตมุงหลังคา กระเบื้องเคลือบบุผนัง และกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น จากความต้องการใช้ลดลงตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน เนื่องจากอัตราหนี้เสียและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง หมวดสุขภัณฑ์ ลด 1.7% จากการลดลงของโถส้วมชักโครก ฝักบัวอาบน้ำ และราวจับสแตนเลส เนื่องจากความต้องการใช้ลดลงตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว
         
ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน พ.ค.2568 มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยมีปัจจัยจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐให้เป็นไปตามเป้าหมาย ส่งผลให้การก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น การขยายระยะเวลามาตรการลดค่าโอนและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% การผ่อนปรนเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (เกณฑ์ LTV) เป็นต้น และการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มฟื้นตัว รวมทั้งมีความต้องการใช้เหล็กที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง