​ไทยพร้อมประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ชงผลักดัน FTAAP ส่งเสริม MSMEs

img

ไทยประกาศความพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปกช่วง 19-22 พ.ค.นี้ เริ่มจากสัมมนาการทำเขตการค้าเสรีเอเปก การเสวนานานาชาติ BCG Symposium การจัดประกวดแข่งขันทำแอปพลิเคชันช่วยภาคเกษตร พร้อมชงรัฐมนตรีขับเคลื่อน การทำ FTAAP ในยุคโควิด-19 และอนาคต และการส่งเสริม MSMEs

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะหน่วยงานหลักของไทยที่รับผิดชอบประเด็นการค้าการลงทุนของเอเปก มีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก (APEC Ministers Responsible for Trade Meeting 2022 : MRT) และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ค.2565 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีการค้าของ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปก ที่เดินทางเข้ามาร่วมประชุมครั้งแรก ในช่วงที่มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ และยังได้เชิญผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) เข้าร่วมการประชุมด้วย

สำหรับกำหนดการจะเริ่มจากวันที่ 19 พ.ค.2565 เป็นการสัมมนาเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Symposium on FTAAP) เพื่อส่งเสริมการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และประชาชนไทยเกี่ยวกับการขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การจัดทำเขตการค้าเสรี (FTA) ของเอเปก
         
วันที่ 20 พ.ค.2565 เป็นงานเสวนานานาชาติ “BCG Symposium” ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ BCG Economy ประกอบด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างภาครัฐ เอกชน วิชาการ และจัดทำข้อเสนอแนะในการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดย่อมและรายย่อย (MSMEs) กับ BCG

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม App Challenge ซึ่งเป็นการจัดประกวดแข่งขัน Application เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในส่งเสริมการค้าการลงทุน โดยในปีนี้ กำหนดโจทย์การพัฒนา Application เพื่อช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการในภาคการเกษตรในเอเปกสามารถต่อยอดด้านเกษตรและอาหาร และสร้างโอกาสเข้าถึงตลาดท้องถิ่นและตลาดส่งออก


         


นางอรมนกล่าวว่า ในส่วนของการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21–22 พ.ค.2565 เพื่อร่วมกันผลักดันและกำหนดทิศทางความร่วมมือในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจการค้าของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อาทิ การสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่ยึดถือกฎเกณฑ์ภายใต้ WTO การหารือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในเรื่องการขับเคลื่อน FTAAP ในช่วงโควิด-19 และอนาคต ซึ่งเน้นการอยู่ร่วมกับโควิด-19 และการมองไปข้างหน้า โดยใช้นโยบายการค้าเป็นเครื่องมือสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมและยั่งยืน ซึ่งจะสะท้อนหัวข้อหลักในการเป็นเจ้าภาพของไทย คือ เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล (Open. Connect. Balance.)
         
ทั้งนี้ เอเปกให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกทางการค้า การลด และยกเลิกอุปสรรคทางการค้า รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันของ MSMEs ให้เข้าสู่ระบบการค้าโลกได้ เป็นการสนับสนุนการนำไปสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานที่สอดรับกับบริบทโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และคาดว่าผลลัพธ์ของการประชุมเอเปกจะช่วยวางแนวทางฟื้นฟูและกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยภายหลังยุคโควิด-19 ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการค้าดิจิทัล
         
ขณะเดียวกัน ภาพรวมการขับเคลื่อนความร่วมมือต่าง ๆ เหล่านี้ จะส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจของไทยได้ประโยชน์ อาทิ การเดินทางข้ามพรมแดนที่สะดวกยิ่งขึ้น การเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจได้อย่างเท่าเทียมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน นวัตกรรมทางดิจิทัล การพัฒนาศักยภาพและขยายโอกาส ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน
         
“อยากจะให้ประชาชนมองว่าเรื่องเศรษฐกิจการค้าเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ซึ่งในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม จะผลักดันเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย รวมถึงสมาชิกเขตเศรษฐกิจด้วย โดยจะเน้นการเปิดเสรีทางการค้ามากขึ้น และส่วนหนึ่งจะเน้นให้ผู้ประกอบการนำโมเดลเศรษฐกิจ BCG เข้ามาใช้ประโยชน์เพื่อสนับสนุนนโยบายการค้าและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการนำแอปพลิเคชันมาช่วยด้านการเกษตร”นางอรมนกล่าว



ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง