​“จุรินทร์”เผยการค้าชายแดน-ผ่านแดนม.ค.65 มูลค่า 141,072 ล้านบาท โต 9.49%

img

“จุรินทร์”เผยตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดน เริ่มต้นเดือนม.ค.65 ยังเติบโตได้ดี ยอดการค้ารวม 141,072 ล้านบาท เพิ่ม 9.49% เฉพาะส่งออก 77,694 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.53% ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของคู่ค้า เงินบาทอ่อน ความต้องการสินค้าไทย และการช่วย SMEs ให้มีโอกาสส่งออก ส่วนการแก้ไขปัญหาส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ได้ประสานเปิดเลนพิเศษที่ด่าน ดันส่งออกทางเรือ อากาศ พร้อมรัดเปิดด่าน ใช้ประโยชน์จากรถไฟลาว-จีน  

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนม.ค.2565 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ตัวเลขการค้ารวม มีมูลค่า 141,072 ล้านบาท เพิ่ม 9.49% แยกเป็นการส่งออก มูลค่า 77,694 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.53% และนำเข้า มูลค่า 63,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.25% และเมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศ พบว่า การค้ารวมทั้งส่งออกและนำเข้าชายแดนไปยังมาเลเซีย มีมูลค่า 30,549 ล้านบาท เพิ่ม 14.26% กัมพูชา มูลค่า 17,765 ล้านบาท เพิ่ม 17.94% สปป.ลาว มูลค่า 23,456 ล้านบาท เพิ่ม 39.86% เมียนมา มูลค่า 18,607 ล้านบาท เพิ่ม 36.26% และผ่านแดนไปยังสิงคโปร์ มูลค่า 10,270 ล้านบาท เพิ่ม 15.47% เวียดนาม มูลค่า 8,066 ล้านบาท เพิ่ม 36.19% และมีประเทศเดียวที่ลดลง คือ จีน มูลค่า 16,988 ล้านบาท ลด 24.34%

ปัจจัยที่ส่งผลให้ตัวเลขการค้ายังเป็นบวก โดยเฉพาะการส่งออกของไทยผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดน คือ 1.การฟื้นตัวในภาคการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ช่วยให้การส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดนยังเป็นบวก 2.ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าในช่วงเดือนม.ค.2565 3.ความต้องการสินค้าจำเป็นเพื่อการอุปโภคบริโภคของประเทศเพื่อนบ้าน มีส่วนสำคัญช่วยให้ตัวเลขยังเป็นบวก 4.มาตรการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับเอกชนที่สนับสนุนการค้าชายแดนและผ่านแดน ไม่ว่าจะเป็นเร่งรัดการเปิดด่าน โครงการ “จับคู่กู้เงิน” สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก ที่ช่วยทำให้การส่งออกผ่าน SMEs ดีขึ้น
           
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับปัญหาการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ ติดตามการส่งผลไม้ออกไปจีนเป็นการเฉพาะ เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ โดยเฉพาะทางบกที่ในช่วงที่ผ่านมา ติดขัดในภาคปฏิบัติ เนื่องจากนโยบายซีโร่โควิด-19 ของจีน ที่มีการตรวจเข้มเรื่องของรถขนผลไม้จากประเทศอื่นเข้าจีน ซึ่งล่าสุดได้มีการเจรจาให้มีเส้นทางพิเศษส่งผลไม้ไทยเข้าจีน ถ้าได้ตรวจสอบเข้มตามมาตรฐาน GAP Plus นอกจากกระบวนการปลูก การผลิต การดูแล และการตรวจโควิด-19 เข้ม ก่อนปิดตู้ผลไม้ และตรวจคนขับ รวมทั้งมีเอกสารรับรองที่เห็นชอบร่วมกัน จะขอเลนพิเศษส่งผลไม้เข้าด่านทางบกของจีน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้รับผิดชอบเจรจา
         


นอกจากนี้ ยังได้เตรียมมาตรการเชิงรุกในการดูแลผลไม้ไว้แล้ว คือ มาตรการ 17 +1 ไว้แล้ว ตั้งแต่ที่ผลไม้ยังไม่ออก ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ นัดหมายผู้มีอำนาจของจีน ถ้าเป็นระดับรัฐมนตรีจะดีที่สุด ซึ่งกำลังประสานอยู่ เพื่อเจรจาแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ทางบกผ่านด่านเวียดนามเข้าจีน หรือลาวเข้าจีน และยังเตรียมช่องทางอื่นในการส่งออกผลไม้ เช่น ทางเรือ ทางอากาศ ซึ่งได้เจรจากับสายการบินเพื่อดูแลเรื่องค่าระวางไม่ให้แพงเกินไปแล้ว  

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าเปิดด่านเพิ่มเติม เช่น ด่านหนองเอี่ยน ซึ่งกำลังเร่งรัดอยู่ ถ้าเปิดได้จะทะลุทะลวงตัวเลขเพิ่มเติมขึ้นไปได้อีกในการส่งออกไปกัมพูชา และยังมีเป้าหมายในการเปิดเส้นทางส่งออกที่อำนวยความสะดวกให้สินค้าของไทยผ่านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเชียงของ เชียงแสนให้มีการอำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้ประโยชน์จากรถไฟลาว-จีน ที่จะเป็นอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายส่งออกไปจีน โดยคาดว่าในเดือนมิ.ย.2565 ทางจีนคงพร้อมเรื่องของด่าน
         
นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศประเทศ กล่าวว่า การส่งออกไปจีนที่ชะลอตัวลง เนื่องจากการส่งออกไปจีน มีช่วงหนึ่งมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ จึงหันมาใช้การส่งออกผ่านทางบกเข้าสู่ตลาดจีน แต่ก็ติดปัญหาเรื่องซีโร่โควิด-19 ทำให้การส่งออกติดขัด แต่ตอนนี้ ปัญหาเรื่องตู้คอนเทนเนอร์เบาบางลงแล้ว ก็มีการหันไปส่งออกทางเรือเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกไปจีนดีขึ้น

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง