​“พาณิชย์”เพิ่มช่องทางจำหน่ายให้สินค้า OTOP เผยหาซื้อได้ทั้งออนไลน์ ในห้าง ดิวตี้ฟรี ร้านค้าส่งปลีก และร้านโชห่วยทั่วประเทศ

img

“พาณิชย์”เดินหน้าเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้า OTOP หวังผลักดันให้เป็นธุรกิจ on TOP  ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกช่องทาง ทั้งการซื้อขายผ่านออนไลน์ ในชั้นวางของห้าง ที่ดิวตี้ฟรีสนามบิน ร้านค้าส่งปลีก และร้านค้าชุมชนทั่วประเทศ คาดปีนี้สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตสินค้าไม่ต่ำกว่า 1.377 แสนล้านบาท  

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เดินหน้าเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เพื่อผลักดันให้เป็นสินค้า on TOP สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง โดยได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งผ่านระบบออนไลน์ การวางจำหน่ายในห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า พื้นที่ดิวตี้ฟรี ร้านค้าส่งค้าปลีก และร้านค้าปลีกชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตสินค้า OTOP มีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายมากขึ้น และผลักดันให้สินค้า OTOP เป็นหนึ่งในสินค้าที่ผู้บริโภคมีความต้องการเพิ่มขึ้น

สำหรับการผลักดันให้ค้าขายออนไลน์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เข้าไปส่งเสริมให้ความรู้ และพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP ในการประกอบธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ การจัดทำร้านค้าออนไลน์ การเชื่อมโยงระบบการขนส่ง โลจิสติกส์ และการชำระเงิน เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันสามารถจำหน่ายได้ผ่าน www.thaicommercestore.com และ  www.thaitrade.com ซึ่งเป็นการจำหน่ายภายในประเทศไปจนถึงการส่งออกต่างประเทศ

ส่วนการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านการค้าปลีก ได้ร่วมกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีก เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เดอะมอลล์ ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างค้าปลีก บิ๊กซี โลตัส สยามเจมส์กรุ๊ป นารายภัณฑ์ ในการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในพื้นที่ รวมถึงผลักดันให้ออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ด้วยการร่วมมือกับคิงพาวเวอร์ นำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในพื้นที่ดิวตี้ฟรีของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและภูเก็ต ที่มียอดจำหน่ายปีละไม่น้อยกว่า 80 ล้านบาท และกำลังหารือเพิ่มเติมกับสนามบินดอนเมือง เชียงใหม่ และอู่ตะเภา เพื่อนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่าย
         
นอกจากนี้ ได้เพิ่มศูนย์กลางการกระจายผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านร้านค้าส่ง-ปลีกทั่วประเทศที่ได้รับการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อาทิ ห้างสหไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ห้างเดอะสกาย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห้างสมรไพบูลย์ จังหวัดสมุทรสงคราม และอีก 70 จังหวัด จำนวน 130 ร้านค้า ให้เป็นศูนย์กลางช่วยกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค โดยในปี 2560 มีเป้าหมายเชื่อมโยงการพัฒนาด้านการบริหารจัดการร้านค้าปลีกชุมชนให้เป็นศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน และรวบรวมสู่ร้านค้าส่ง-ปลีกในระดับจังหวัด จำนวน 46 จังหวัด 60 ร้านค้า และ 5,000 ร้านค้าปลีกชุมชน โดยคาดว่าจะมียอดจำหน่ายปีละไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาท
         
“ในปี 2559 ยอดจำหน่ายสินค้า OTOP ไทยตามข้อมูลของกรมพัฒนาชุมชน สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 1.252 แสนล้านบาท และคาดว่าในปี 2560 ยอดจำหน่ายสินค้า OTOP จะเพิ่มขึ้น 10% หรือคิดเป็น 1.377 แสนล้านบาท ซึ่งการพัฒนาตลาดให้กับสินค้า OTOP ไม่เพียงแต่ทำให้สินค้า OTOP มีการเติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่ยังจะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืนด้วย”นางอภิรดีกล่าว

 
 
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง