​ช่วยข้าวโพดล่วงหน้า! “พาณิชย์”ขอความร่วมมือโรงงานอาหารสัตว์รับซื้อกิโลละ 8 บาท พร้อมคุมพ่อค้าคนกลางห้ามกดราคา

img

“พาณิชย์”เตรียมมาตรการล่วงหน้ารับมือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูกาลผลิตปี 2560/61 ออกสู่ตลาดช่วงเดือนปลายเดือนส.ค.-ก.ย. ขอความร่วมมือโรงงานอาหารสัตว์รับซื้อข้าวโพดหน้าโรงงานทั่วประเทศกิโลละ 8 บาท ส่วนผู้รวบรวมข้าวโพดหรือพ่อค้าคนกลาง ต้องซื้อในราคาที่ลดหลั่นลงไป แต่ต้องเหมาะสม เหตุมีประกาศ กกร. คุมไว้ ต้องแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และราคารับซื้อ  

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้เชิญผู้ประกอบการโรงงานอาหารสัตว์ และผู้รวบรวบหรือผู้รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาหารือ เพื่อขอความร่วมมือให้รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แบบเมล็ดอบแห้ง (ความชื้น 14.5%) ราคาหน้าโรงงานทั่วประเทศขั้นต่ำกิโลกรัม (กก.) ละ 8 บาท โดยทางโรงงานอาหารสัตว์ยินดีให้ความร่วมมือ ซึ่งถือเป็นการจัดเตรียมมาตรการที่จะดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเป็นการล่วงหน้า เพราะผลผลิตฤดูกาลปี 2560/61 จะทยอยออกมาในช่วงปลายเดือนส.ค.-ก.ย.2560  

โดยในส่วนของผู้รวบรวมหรือผู้รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาการกดราคารับซื้อ เนื่องจากได้มีการออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ให้ผู้รวบรวมที่มีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ 50 ตันขึ้นไป จะต้องแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และต้องปิดประกาศราคารับซื้อ ณ จุดรับซื้อ จะทำให้กระทรวงพาณิชย์ทราบว่าพ่อค้าคนกลางมีการรับซื้อข้าวโพดในราคาเท่าใด เหมาะสมหรือไม่ หากต่ำเกินไปก็สามารถใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดูแลได้    

“เป็นการดูแลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เพราะเมื่อก่อน เราจะคุมที่ปลายทาง คือ โรงงานอาหารสัตว์ แต่หลังจากมีมติ กกร. ออกมา ที่ให้พ่อค้าคนกลางมาขึ้นทะเบียน แจ้งราคารับซื้อ ก็จะทำให้รู้ตลอดเส้นทางว่าถ้ามีปัญหาราคาตกต่ำ ปัญหาจะอยู่ตรงไหน เพราะแต่ละช่วง จะมีมาตรฐานราคาที่ชัดเจน”

ทั้งนี้ ราคาที่กระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมือให้โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อที่กก.ละ 8 บาท จะทอนออกมาเป็นต้นทุนของพ่อค้าคนกลางกก.ละ 6 บาท เพราะมีต้นทุนค่าแกะเมล็ด ค่าอบเมล็ดข้าวโพด และค่าขนส่ง ส่วนราคาข้าวโพดแบบฝักที่เกษตรจะขายได้อยู่ที่กก.ละ 4 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เรียกเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาประเมินข้อมูลที่จะยกเลิกการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดในประเทศในอัตรา 1 ต่อ 3 (นำเข้าข้าวสาลี 1 ตัน ต้องซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ตัน) โดยได้พิจารณามาตรการขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสาลีที่กระทรวงการคลังกำลังจัดทำข้อมูลออกมาว่าจะมีการขึ้นอัตราภาษีเท่าไร และมีผลดีผลเสียต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น กลุ่มปศุสัตว์ อย่างไรบ้าง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ ก่อนที่จะนำเสนอมาตรการให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) พิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป

โดยแนวโน้มน่าจะมีการยกเลิกมาตรการกำหนดสัดส่วนนำเข้าข้าวสาลี เนื่องจากเป็นมาตรการที่ผิดหลักเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (WTO) แต่หากใช้ชั่วคราวเพื่อยับยั้งความเสียหายสามารถทำได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ใช้มา 1 ปีแล้ว จึงต้องมีการทบทวนมาตรการ และมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสาลี เป็นมาตรการที่สามารถทำได้ เพราะไทยผูกพันอัตราภาษีนำเข้าข้าวสาลีกับ WTO ไว้ที่ 27% หากขึ้นไม่เกิน 27% ก็สามารถทำได้ แต่ต้องดูว่าจะขึ้นเท่าไร เพื่อไม่ให้กระทบกับกลุ่มเนื้อสัตว์ที่ต้องนำเข้าข้าวสาลีมาผลิตเป็นอาหารสัตว์ในประเทศ 
 

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง