​ซื้อยานอก รพ. ลดค่าครองชีพ

img

นับตั้งแต่ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” ได้คิกออฟเปิดตัวโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2568 ที่เปิดโอกาสให้ “ประชาชน” สามารถ “นำใบสั่งยา” ไปซื้อยา “นอกโรงพยาบาลเอกชน” ที่เข้าไปรักษาได้
         
ปรากฏว่า มีการตั้ง “คำถาม” ว่าโครงการดังกล่าว ทำได้จริงหรือไม่ โรงพยาบาลเอกชนจะยอม “เสียโอกาส” ในการ “สร้างรายได้” จากการ “ขายยา” จริงหรือ
         
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน” ไม่ยอมปล่อยให้มี “ข้อสงสัย” หรือการ “ตั้งคำถาม” กับโครงการ Quick Big Win ลดค่าครองชีพที่ถูกผลักดันโดย “นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
         
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2568 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยัง “โรงพยาบาลพระราม 9” ด้วยตนเอง  
         
การไปครั้งนี้ พาสักขีพยานไปด้วย คือ ภก.เลิศชาย เลิศวุฒ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และผู้แทนจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข
         
ไปถึงก็สวมบท “ผู้ป่วยจำลอง” บอกแพทย์ว่า มีอาการ “ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และนอนไม่หลับเป็นภาวะแทรกซ้อน
         
อาการทั้งหมดนี้ ถ้าเข้ารับการรักษาและ “ซื้อยา” ทั้งหมดจากโรงพยาบาล จะมี “ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 10,370 บาท” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายา
         
นายวิทยากรได้บอกกับทางโรงพยาบาลไปว่า จะขอ “ใช้สิทธิ์” ตามโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” โดยจะนำ “ใบสั่งยา” จำนวน 4 รายการ ไปซื้อที่ “ร้านขายยาภายนอก” และรับเฉพาะยาควบคุมพิเศษ 1 รายการ

ปรากฏว่า “ค่าใช้จ่าย” ที่โรงพยาบาลเหลือเพียง 1,670 บาท รวมค่าตรวจ ค่าบริการทางการแพทย์ และค่ายาควบคุมพิเศษแล้ว



จากนั้น ได้นำใบสั่งยาที่ “ได้รับ” จากโรงพยาบาลพระราม 9 ดังกล่าว มาทดลองซื้อจริงที่ “ร้านยา Tops Care” ภายในห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ซึ่งเป็นร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ภายใต้ระบบ “ร้านยาใกล้ฉัน” ของกระทรวงสาธารณสุข

พบว่า สามารถนำใบสั่งยามาซื้อยาได้โดยตรง โดยมี “เภสัชกรประจำร้าน” ให้คำแนะนำอย่างครบถ้วน ทั้งชื่อสามัญของยา วิธีใช้ ขนาดการรับประทาน และข้อควรระวังของแต่ละโรค เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาที่ถูกต้อง ปลอดภัย และมีคุณภาพเทียบเท่ากับยาที่จ่ายจากโรงพยาบาล

โดยค่ายา 4 รายการ ที่นำมาซื้อตามใบสั่งยา มีราคาทั้งหมดเพียง 3,863 บาท เมื่อเทียบกับราคาค่ายาเดิมของโรงพยาบาลที่อยู่ที่ 8,700 บาท จะเห็นว่ามีส่วนต่างที่ประหยัดได้ถึง 4,837 บาท
         
พูดง่าย ๆ ก็คือ จากเดิมที่ต้องจ่ายเงินกว่า 10,000 บาท เหลือจ่ายจริงเพียงประมาณ 5,500 บาท ประหยัดเงินไปเกินครึ่ง หรือกว่า 4,500 บาท ซึ่งเป็นเงินที่กลับไปอยู่ในกระเป๋าของประชาชนโดยตรง”นายวิทยากรกล่าว
         
ปัจจุบันมี “เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน” เข้าร่วมโครงการแล้ว 11 เครือ จำนวน 345 แห่ง ได้แก่ 1.BDMS 2.ธนบุรี 3.สินแพทย์ 4.เกษมราษฎร์ 5.RAM 6.บางประกอก-ปิยะเวท 7.พริ้นซิเพิล 8.นวมินทร์ 9.จุฬารัตน์ 10.มหาชัย และ 11.วิชัยเวช และยังมี “โรงพยาบาลเดี่ยว” ที่ไม่มีเครือเข้าร่วมอีก เช่น หัวเฉียว บี.แคร์ เจ้าพระยา พระรามเก้า และกรุงเทพคริสเตียน เป็นต้น
         
ส่วน “ร้านขายยา” มี 16 เครือข่าย 10 แอปพลิเคชัน จำนวน 3,461 แห่งเข้าร่วม

โดยร้านขายยาขนาดใหญ่ที่เข้าร่วมแล้ว ได้แก่ 1.Pharmax 2.Icare 3.Super Drug 4.Fascino 5.Save Drug 6.Pure Pharmacy 7.eXta Plus 8.Tops Care 9.ร้านยากรุงเทพ 10.GPO 11.Boots 12.Watsons 13.ร้านยาโลตัส 14.Health Up 15.Lab Pharmacy และ 16.ยาหนึ่ง



สำหรับผู้ให้บริการ Telepharmacy ที่เข้าร่วม ได้แก่ 1.Telehealth 2.ยาพร้อม 3.PharmCare 4.AskMacy by Fascino 5.ร้านยากรุงเทพ 6.All PharmaSee 7.BIGYA 8.BeDee 9.Boots และ 10.Watsons
         
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แจ้งว่า จำนวนร้านขายยายังสมัครเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และทุกร้านมีเงื่อนไข ต้องมี “เภสัชกรประจำร้าน” และจำหน่ายยาที่มี “มาตรฐานเดียวกัน” กับโรงพยาบาล 

เพราะฉะนั้น ประชาชนที่นำใบสั่งยาจากโรงพยาบาลมาซื้อยา ก็มั่นใจได้ว่า จะได้รับยาที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย
         
โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ได้เริ่มโครงการแล้ว ประชาชนที่เคยมองว่า การเข้าโรงพยาบาลเอกชน มี “ค่าใช้จ่ายสูง” และ “ราคาแพง” ก็ขอให้ “คิดใหม่” ลองมาใช้บริการโรงพยาบาลใกล้บ้าน แล้วนำใบสั่งยาไปซื้อยาจากร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ
         
สังเกตได้จาก “โลโก้” และ “สติกเกอร์” ที่มีคำว่า “สุขกาย สบายกระเป๋า” ที่จะนำไปติดไว้ในจุดให้บริการต่าง ๆ อย่างชัดเจน  
         
โครงการนี้ “กระทรวงพาณิชย์” ประเมินไว้ว่า จะช่วยประชาชน “ประหยัด” เงินในกระเป๋า ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 32,000 ล้านบาท
         
Quick Big Win จริง ๆ
 
ซีเอ็นเอ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด