ปีนี้ “ผลไม้ภาคใต้” คาดว่าจะมีปริมาณรวม 895,118 ตัน เพิ่มขึ้น 77%
ในจำนวนนี้ เป็น “มังคุด” ปริมาณ 142,077 ตัน เพิ่ม 409% “ทุเรียน” ปริมาณ 667,338 ตัน เพิ่ม 49% “เงาะ” ปริมาณ 52,804 ตัน เพิ่ม 96% และ “ลองกอง” ปริมาณ 32,899 ตัน เพิ่ม 1,497%
สาเหตุที่ “ผลผลิต” เพิ่มขึ้นมาก เพราะปี 2565 ที่ผ่านมา “ผลไม้ภาคใต้” ประสบภัยธรรมชาติ ทำให้ผลผลิต “เสียหาย” และปริมาณ “ลดลง”
มาปีนี้ แม้ผลผลิตจะเพิ่มขึ้น แต่ดูแล้วไม่น่าจะ “มีปัญหา” เพราะ “กระทรวงพาณิชย์” ได้เตรียม “มาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566” ไว้รองรับแล้วจำนวน 22 มาตรการ
ทั้ง 22 มาตรการ จะดูแล 4 ด้าน คือ ด้านการผลิต ด้านการตลาดในประเทศ ด้านการตลาดต่างประเทศ และด้านกฎหมาย มี “เป้าหมาย” เพื่อ “ผลักดัน” ให้ราคาผลไม้อยู่ใน “เกณฑ์ดี” ตลอดทั้งฤดูกาล
ทั้งนี้ ผลจากการใช้มาตรการกับ “ผลไม้ภาคตะวันออก” ทำให้ราคาผลไม้ทุกตัว “ปรับตัวสูงขึ้น” ไม่ว่าจะเป็น “ทุเรียน-มังคุด-เงาะ”
เฉพาะ “มังคุด” ราคาถึงกับทำ “นิวไฮ” สร้างสถิติเป็นประวัติศาสตร์ไปเลย
ทำให้ปีนี้ เป็น “ปีทอง” ของชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออกไปแล้ว และกำลัง “รอลุ้น” ว่า จะเป็นปีทองของชาวสวนผลไม้ภาคใต้หรือไม่ ตามที่ผู้เขียนได้เคยเขียนไว้เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา (ถ้าสนใจจะรู้ว่าราคาผลไม้แต่ละชนิดเป็นยังไง ก็ลองไปอ่านกันดู >>>https://www.commercenewsagency.com/columnist/6100)
กลับมาที่ “ผลไม้ภาคใต้” ทำไมผู้เขียนถึง “มั่นใจ” ว่าปีนี้ จะเป็นปีทอง และเป็นปีที่ชาวสวนผลไม้ภาคใต้ จะมี “รายได้” เพิ่มขึ้น ชดเชยรายได้ปีที่แล้วที่ลดลงจากผลผลิตที่ได้รับความเสียหาย
เพราะตั้งแต่ผลผลิตออกสู่ตลาด “กระทรวงพาณิชย์” ได้ทุ่มเท “สรรพกำลัง” ลงไปดูแลผลไม้ภาคใต้อย่าง “ใกล้ชิด” และ “เกาะติด”
ช่วงผลไม้ออกแรก ๆ และตัวแรกที่ออก คือ มังคุด “นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน” ลงพื้นที่แบบว่า ขับรถไป ขับรถกลับ “กรุงเทพฯ-ชุมพร” เป็นว่าเล่น ทั้งพา “ผู้ประกอบการ” เข้าไปซื้อ ไปกำกับดูแล “การซื้อขาย” และร่วมกับ “สำนักงานพาณิชย์จังหวัด” ในพื้นที่ออกตรวจสอบ ติดตาม จนทำให้ราคาขยับจากช่วงแรก ๆ 70-80 บาท/กิโลกรัม (กก.) ขึ้นทำ “นิวไฮ” ที่ กก.ละ 108 บาท เพิ่มขึ้น 173% ทำเอาเกษตรกร “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” กันเลยทีเดียว
ตอนนี้ “ผลผลิตรุ่นแรก” หมดไปแล้ว กำลังเข้าสู่ “รุ่น 2” ราคาก็ยัง “ทรงตัว” อยู่ในระดับสูง
จากนั้น พอ “ทุเรียน” เริ่มออก “นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน” ก็ออกมายืนยันว่า “มีมาตรการ” รับมือไว้พร้อมแล้ว ทั้งประสานผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ล้งไทย ล้งจีน ห้างค้าส่งค้าปลีก พ่อค้าส่ง ลงพื้นที่ไปรับซื้อ สัปดาห์นี้ น่าจะ “ครอบคลุม” พื้นที่ต่ำ ๆ ก็ 80%
พร้อมประสาน “ตลาดมรกต” ที่เป็นตลาดรับซื้อทุเรียนใหญ่ที่สุดในภาคใต้เข้ามาช่วย ตอนนี้ มี “ล้ง” ทั้งไทย ทั้งจีน เข้าไปซื้อแล้วกว่า 50 ราย และยังมีผู้ประกอบการ ที่ซื้อไปจำหน่ายในประเทศ ห้องเย็น โรงงานแปรรูป กว่า 300 ราย ที่เข้ามาซื้อแล้ว โดยทุกราย “ยืนยัน” ว่า พร้อมซื้อ “ไม่อั้น”
ถัดมา “นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์” ได้ลงพื้นที่ จ.ชุมพร ไปดูสถานการณ์การซื้อขาย “ทุเรียน” ที่ตลาดมรกต เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2566 พบว่า การซื้อขาย “คึกคัก” และราคาดีมาก “เกรด AB” สูงกว่า กก.ละ 130 บาท และ “ตกเกรด” กก.ละ 100 บาท
ส่วน “มังคุด” เกรดมันรวมอยู่ที่ 95-108 บาท/กก. เกรดลาย ประมาณ 53-81 บาท/กก. เกรดดอกดำ ประมาณ 33-59 บาท/กก.
นายกีรติ ได้กำชับให้ “กรมการค้าภายใน” และ “สำนักงานพาณิชย์จังหวัด” ดูแลการซื้อขาย อย่าให้เกิดการ “โกงน้ำหนัก” อย่าให้มีการ “เอารัดเอาเปรียบ” ในเรื่องราคา และอย่าให้มีการ “ฮั้วกดราคา” ถ้า “จับได้-ไล่ทัน” ให้เล่นงานตามกฎหมายเด็ดขาด
จากนั้น “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ได้นัดประชุมติดตาม “สถานการณ์ผลไม้ภาคใต้ ปี 2566” ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ล้ง ผู้ส่งออกและตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ภาคใต้ ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า สุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี แบบสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา
นายจุรินทร์ ย้ำให้ติดตามการซื้อขายอย่างใกล้ชิด อย่าให้มีการกดราคา หรือกระทำการใด ๆ ที่เป็นการเอาเปรียบเกษตรกร และขอให้กำกับดูแล “คุณภาพ” ให้ดี อย่าให้มีปัญหา เช่น “ทุเรียนอ่อน” อะไรทำนองนี้
พร้อมกับสร้างความมั่นใจว่า “ตลาดจีน” ที่มีสัดส่วนการส่งออกผลไม้ถึง 77% ของการส่งออกทั้งหมด ตอนนี้สถานการณ์ “ดีมาก” การขนส่ง “ทางบก” ไร้ซึ่งปัญหา การขนส่ง “ทางเรือ” ก็ฉลุย มี “ตู้” พร้อม มี “เรือ” พร้อม
จากการ “เอาใจใส่” ของ “กระทรวงพาณิชย์” ไล่มาตั้งแต่ ข้าราชการในพื้นที่ รองอธิบดี อธิบดี ปลัดกระทรวง จนถึงรัฐมนตรี ที่ทุ่มเทให้กับชาวสวนผลไม้ภาคใต้ ก็น่าจะทำให้ชาวสวน “เบาใจ” ลงได้ ว่าจะได้รับการ “ดูแล” และไม่ถูก “ทอดทิ้ง” ปล่อยให้เผชิญชะตากรรมกับพ่อค้า
ส่วนสถานการณ์ “ราคา” จะเป็น “ปีทอง” ตามที่ “คาดหวัง” เอาไว้หรือไม่ หรือช่วง “ผลผลิต” ออกมาก ๆ จะเป็นอย่างไร
เป็นเรื่องที่ต้อง “ติดตาม” กันต่อไป
แต่ตอนนี้ ที่ “จับต้องได้” และ “มองเห็น”
ก็คือ “พาณิชย์” ทุ่มเต็ม 100%
“ดีใจ” แทนชาวสวนผลไม้ภาคใต้จริง ๆ
ซีเอ็นเอ
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง