
อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปี และก้าวเข้าสู่ “ปีใหม่ 2565”
ช่วงนี้ “ประชาชน” ต่างวางแผน เดินทางกลับ “ภูมิลำเนา” และเดินทาง “ท่องเที่ยว”
แม้จะมีบางส่วน “ชะลอ” การเดินทาง เพราะ “กังวล” กับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ “โอมิครอน”
แต่การจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็ยังจะ “คึกคัก” กว่าช่วงปกติ แม้ว่าปีนี้ ยอดการใช้จ่ายจะชะลอตัวลงกว่าปีก่อน ๆ ก็ตาม
โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ประเมินว่า ปีใหม่ 2565 จะมีการจับจ่ายใช้สอยมูลค่า 8.57 หมื่นล้านบาท ลดลง 6.2% เป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 12 ปี
ถึงมูลค่าจะลดต่ำลง แต่ก็ยังใช้จ่ายสูงถึงระดับ 8.57 หมื่นล้านบาท
นั่นหมายความว่า ประชาชนยังมีการจับจ่ายใช้สอย ซื้อของกิน ของใช้ ของฝาก ของขวัญ เดินทางท่องเที่ยว
“นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” ได้สั่งการกำชับไปยัง “กรมการค้าภายใน” และ “สำนักงานพาณิชย์จังหวัด” ทั่วประเทศ ให้ออกตรวจตรา “สถานการณ์ราคาสินค้า” ทั้งก่อนและหลังปีใหม่
ย้ำชัด ๆ อย่าให้ประชาชน “โดนเอาเปรียบ”
ยิ่งช่วงนี้ เป็นช่วงการซื้อ “กระเช้าของขวัญ” และ “ชุดของขวัญปีใหม่” ต้องตรวจสอบเข้มงวด อย่าให้มีปัญหาการ “ขายแพง” หรือ “โก่งราคา” เด็ดขาด
ต้องติดตามการปิดป้ายแสดงราคา โดยต้องติดให้ชัดเจน แสดงรายการสินค้า น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุ และราคาสินค้าแต่ละรายการ รวมค่ากระเช้าหรือภาชนะที่ใช้บรรจุ และค่าวัสดุตกแต่ง
โดยต้องแจกแจงราคาทั้งหมด เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบ
ที่สำคัญที่สุด ห้ามนำสินค้า “ใกล้หมดอายุ” หรือ “เสื่อมคุณภาพ” มาจัดลงในกระเช้าหรือชุดของขวัญ และรับประกัน “คืนสินค้า” กรณีชำรุด
นอกจากนี้ ให้ติดตามดูแลสถานการณ์ “ราคาสินค้าและบริการ” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวเป็นพิเศษ
ให้เน้นตรวจตราสถานที่ ๆ คนเข้าไปใช้บริการมาก ทั้งสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สนามบิน และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ
เพราะยิ่งมีคน “ใช้บริการมาก” อาจจะมีการ “ฉวยโอกาส” เอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้นได้
แล้วให้รณรงค์ร้านค้า “ปิดป้าย” แสดงราคาให้ชัดเจน ทั้งราคาสินค้าและค่าบริการต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ
ส่วน “สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง” ที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมากอีกจุดหนึ่ง ต้องตรวจสอบความถูกต้องของ “หัวจ่าย” ว่ามีปริมาณ “เต็มลิตร” หรือไม่ เพื่อดูแลประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์
ขอให้เน้นพื้นที่ ๆ เป็นทางผ่านออกไปยังจังหวัดต่าง ๆ และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
หลังจากนโยบายชัดเจน ทั้ง “กรมการค้าภายใน” ทั้ง “พาณิชย์จังหวัด” ทั่วประเทศ ได้ออกตรวจตราการจำหน่ายกระเช้าของขวัญ ชุดของขวัญปีใหม่ กันอย่างต่อเนื่อง
ยังไม่ปรากฏ การขายแพง หรือพบการเอาเปรียบประชาชน
และนับจากนี้ จนถึงปีใหม่ และหลังปีใหม่ จะเดินหน้าตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าต่อไป
ถ้าเจอกระทำผิด ก็จะเล่นงานตามกฎหมาย
กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่าย ต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่ก็อาจจะมี “หลุดหู หลุดตา” ไปบ้าง ประชาชนก็ต้องช่วยกัน “เป็นหู เป็นตา” แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่
หากพบเห็น “การกระทำผิด” จำหน่ายสินค้า “ราคาสูง” เกินสมควร หรือจำหน่ายในราคา “ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้”
ให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้านอกเวลาทำการ ก็จะบันทึกเสียงไว้ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและรับเรื่องในภายหลัง
หรือร้องเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ https://app-transport.dit.go.th/frontend/ ขั้นตอนไม่ยาก แค่สมัครสมาชิก แล้วเข้าสู่ระบบ ก็ร้องเรียนได้ ร้องเสร็จ มีระบบให้ติดตามผล แถมจะได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ หากตรวจสอบแล้วพบว่าร้านค้านั้นกระทำผิดจริง
ส่วนอีกช่องทาง ใกล้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่ไหน ก็ไปร้องเรียนได้ที่นั่น เดินเข้าไปร้องเรียนได้เลย
แต่สิ่งที่ “ห้ามลืม” ในการร้องเรียน ควรมีรายละเอียดให้ครบถ้วน ดังนี้
ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ , ชื่อสถานประกอบการที่ถูกร้องเรียน , สถานที่ตั้ง , ซอย , ถนน , จังหวัด , อำเภอ , ตำบล และสถานที่ใกล้เคียง , วันที่เกิดเหตุ , รายละเอียดสินค้า ยี่ห้อ ขนาดบรรจุ ปริมาณสินค้า ราคา และรายละเอียดพฤติการณ์
สรุปง่าย ๆ ถ้าผู้บริโภคเจอ “ร้านค้า” เอาเปรียบ ก็ต้อง “รักษาสิทธิ์” ของตัวเอง
ถ้านึกไม่ออกว่าจะไป “พึ่งใคร” ให้นึกถึง “พาณิชย์”
เจ้าหน้าที่เขา “ยินดีให้บริการ” และยังมีหลายช่องทางให้เลือก “ร้องเรียน”
อย่าปล่อยให้ “พวกเอาเปรียบ” ลอยนวล
ซีเอ็นเอ
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง