กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแนะประชาชน ผู้ประกอบธุรกิจ ในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ ใช้ช่องทางออนไลน์ทำธุรกรรมเกี่ยวกับการจดตั้งบริษัท การขอสำเนา อัปเดตข้อมูลนิติบุคคล เพื่อไม่ให้การทำธุรกิจสะดุด พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลเต็มที่ และกำหนดมาตรการช่วยเหลือ ทั้งการยื่นจดทะเบียน งบการเงิน บัญชีผู้ถือหุ้น ที่สามารถขยายเวลาได้ รวมถึงการแจ้งเอกสารบัญชีสูญหาย การยื่นบัญชีล่าช้า
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนประชาชนและธุรกิจในพื้นที่อย่างมหาศาล กรมในฐานะหน่วยงานที่ให้บริการจดทะเบียนธุรกิจและให้บริการข้อมูลธุรกิจ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พบว่า มีสำนักงานให้บริการจดทะเบียนธุรกิจบางพื้นที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เช่น หาดใหญ่ สงขลา และปัตตานี ส่งผลให้ผู้ประกอบการทั้งที่อาศัยและไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมได้รับผลกระทบจนไม่สามารถเดินทางไปติดต่อที่สำนักงานได้ ซึ่งกรมขอแนะนำให้ยื่นคำขอหรือทำธุรกรรมทางออนไลน์ผ่านระบบต่าง ๆ ของกรมได้ทั้งหมด เช่น การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน บริษัท การขอสำเนาเอกสาร การอัปเดตข้อมูลนิติบุคคล โดยกรมได้จัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับบริการอย่างสะดวกรวดเร็วแล้ว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันแรกที่เกิดน้ำท่วม นายทะเบียนส่วนกลางได้ช่วยพิจารณาคำขอจดทะเบียนที่ผู้ประกอบธุรกิจยื่นผ่านระบบ DBD Biz Regist ซึ่งมีสำนักงานแห่งใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี และนราธิวาส มาดำเนินการแทนนายทะเบียนของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ดังกล่าวให้จนแล้วเสร็จทุกขั้นตอน

สำหรับในระหว่างเกิดอุทกภัยและหลังอุทกภัยจบลง ได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือนิติบุคคลผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตที่ประสบเหตุ สามารถขอขยายเวลาและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นและหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ทำให้ไม่อาจดำเนินการยื่นจดทะเบียน ยื่นงบการเงิน ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาขยายเวลาในการยื่นเอกสารหรือดำเนินการตามกฎหมายของนิติบุคคล โดยนิติบุคคลสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาหรือดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สถานการณ์อุทกภัยได้สิ้นสุดลง รวมถึงการแจ้งบัญชีหรือเอกสารประกอบการลงบัญชีที่สูญหาย หรือเสียหาย ให้สามารถยื่นล่าช้าจากที่กฎหมายกำหนดได้ และสามารถใช้เป็นหลักฐานกรณีถูกเรียกตรวจสอบบัญชี โดยได้จัดทำคู่มือการบริหารจัดการด้านบัญชีและภาษีในภาวะวิกฤติ-ภัยพิบัติ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีแนวทางในการดำเนินการได้อย่างถูกต้อง สามารถศึกษาคู่มือ ได้ที่ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ คู่มือการทำธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องการติดต่อกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ ที่ประสบเหตุอุทกภัย แต่ไม่สามารถเดินทางได้ สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้
“กรมมุ่งหวังให้ผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ประสบอุทกภัย สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุด หรือหยุดอยู่กับที่ เพื่อลดผลกระทบจากการเดินทางและความล่าช้าทางเอกสาร โดยยืนยันความพร้อมของระบบออนไลน์ของกรมที่ช่วยให้การให้บริการภาครัฐยังคงเดินหน้าได้ แม้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจ และช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง”นายพูนพงษ์กล่าว
ข้อมูลจาก DBD DataWarehouse+ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ณ วันที่ 25 พ.ย.2568 มีนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ใน 9 จังหวัดที่ประสบอุทกภัย จำนวนทั้งสิ้น 57,541 ราย ทุนจดทะเบียน 356,806.40 ล้านบาท แบ่งเป็นสุราษฎร์ธานี 24,808 ราย ทุนจดทะเบียน 122,760.58 ล้านบาท สงขลา 13,878 ราย ทุนจดทะเบียน 136,220.99 ล้านบาท นครศรีธรรมราช 7,311 ราย ทุนจดทะเบียน 33958.34 ล้านบาท ตรัง 2,937 ราย ทุนจดทะเบียน 23,079.64 ล้านบาท พัทลุง 2,153 ราย ทุนจดทะเบียน 5,729 ล้านบาท ยะลา 1,879 ราย ทุนจดทะเบียน 12,158.70 ล้านบาท นราธิวาส 1,808 ราย ทุนจดทะเบียน 8,678.61 ล้านบาท ปัตตานี 1,799 ราย ทุนจดทะเบียน 9,774.45 ล้านบาท และสตูล 966 ราย ทุนจดทะเบียน 4,445.09 ล้านบาท

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

