​“พาณิชย์”เผยลดค่าธรรมเนียมส่งออกข้าวบังคับใช้แล้ว หนุนเกษตรกร-รายย่อยส่งออก

img

กรมการค้าภายในเผยกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการประกอบการค้าข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.68 ที่ผ่านมา ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตส่งออกข้าวให้เกษตรกรและสหกรณ์ ส่วนผู้ประกอบการรายย่อย ปรับลดค่าธรรมเนียมให้ถูกลง เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการส่งออกข้าวสู่ตลาดต่างประเทศ
         
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการประกอบการค้าข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.2568 โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตส่งออกข้าวให้เกษตรกรและสหกรณ์ และปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมให้ผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการส่งออกข้าวไทยสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีศักยภาพในการผลิตข้าวคุณภาพสูง แต่ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและภาระค่าใช้จ่าย การปรับลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมครั้งนี้ จึงเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ผลิตไทยให้เข้าสู่ระบบการค้าโลกได้อย่างเท่าเทียม
         
สำหรับการปรับอัตราใหม่ได้กำหนดให้กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตส่งออกข้าว ขณะที่ผู้ประกอบการข้าวรายย่อยที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 10 ล้านบาท ชำระเพียง 10,000 บาท จากเดิม 50,000 บาท ส่วนผู้ประกอบการที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 10 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 20 ล้านบาท ปรับลดเหลือ 30,000 บาท และสำหรับผู้ส่งออกข้าวสารบรรจุกล่องหรือหีบห่อ ปรับลดค่าธรรมเนียมเหลือ 10,000 บาท จากเดิม 20,000 บาท  
         


นอกจากนี้ การออกกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้ ยังเป็นการต่อยอดจากมาตรการก่อนหน้า ที่ได้ยกเว้นการถือสต๊อกข้าวส่งออกให้เกษตรกรและสหกรณ์ และปรับลดปริมาณสต๊อกขั้นต่ำของผู้ส่งออกข้าวรายย่อยจาก 500 ตัน เหลือเพียง 100 ตัน เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กสามารถดำเนินธุรกิจส่งออกได้จริง เป็นการสร้างระบบการค้าที่เปิดกว้างและส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่สมดุล
         
“ข้าวไทยถือเป็นสินค้าที่ตลาดโลกให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง การลดค่าธรรมเนียมครั้งนี้ จะช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถสร้างแบรนด์ของตนเองได้มากขึ้น เข้าถึงลูกค้าต่างประเทศโดยตรง และเพิ่มรายได้ให้ชุมชนในระยะยาว และมาตรการนี้ ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และผลักดันข้าวไทยให้เป็นสินค้าที่มีศักยภาพในการแข่งขันระดับ เพราะการลดค่าธรรมเนียม ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการ แต่ยังเป็นการขยายโอกาสทางการค้าให้ผู้ผลิตไทยทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในการส่งออกข้าว เพิ่มปริมาณการค้าระหว่างประเทศของไทย และสร้างแรงหนุนสำคัญให้ราคาข้าวในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะต่อไป”นายวิทยากรกล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง