กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยแอฟริกาใต้ปรับนโยบายการค้าใหม่ หลังถูกสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้า เตรียมเดินหน้าขยายความร่วมมือการค้ากับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมาย ชี้มีโอกาสขายทั้งเกษตร อาหาร ยานยนต์และชิ้นส่วน เตรียมเดินหน้าผลักดันทุกรูปแบบต่อไป
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางวิชุดา อัครเมธาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย แอฟริกาใต้ ถึงการปรับนโยบายการค้าของแอฟริกาใต้ หลังจากที่ถูกสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้า โดยมีแผนที่จะขยายความร่วมมือการค้ากับประเทศในเอเชียเพิ่มขึ้น และเป็นโอกาสที่ไทยจะขยายการค้าได้มากขึ้น
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ ได้เก็บภาษีนำเข้า 30% ต่อสินค้าบางรายการที่นำเข้าจากแอฟริกาใต้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อภาคเกษตรและอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้ GDP หดตัวลงถึง 0.4% ในปีนี้ และอาจกระทบต่อการจ้างงานหลายพันตำแหน่ง ซึ่งโครงสร้างการส่งออกของแอฟริกาใต้ยังคงพึ่งพาตลาดส่งออกหลักเพียงไม่กี่ประเทศและเน้นวัตถุดิบมากเกินไป จึงจำเป็นต้องหันมาสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายตลาดใหม่ ๆ

สำหรับยุทธศาสตร์การกระจายความเสี่ยงของแอฟริกาใต้ จะเน้นความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วและมีประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก และยังจะเร่งใช้ประโยชน์จากเขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกา (AfCFTA) ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดกว่า 1.3 พันล้านคน โดยชี้ว่า สินค้าเกษตรจากแอฟริกาใต้ที่ส่งออกไปยังประเทศในทวีปแอฟริกาได้รับความนิยมสูง และควรต่อยอดโดยใช้ฐานการผลิต การเงิน โลจิสติกส์ และแบรนด์ที่เข้มแข็ง เพื่อทำให้แอฟริกาใต้เป็นพันธมิตรทางการค้าอันดับต้น ๆ ของทวีป
“จากนโยบายที่แอฟริกาใต้หันมาขยายความร่วมมือทางการค้ากับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนถึงความพยายามในการลดการพึ่งพาตลาดดั้งเดิมและสร้างสมดุลต่อแรงกดดันจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยไทยถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจ เพราะไทยถูกกล่าวถึงโดยตรงว่าเป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจาความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร อาหาร และอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วน ซึ่ง DITP จะติดตามอย่างใกล้ชิด และหาช่องทางในการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนของไทยกับแอฟริกาใต้ในทุกรูปแบบต่อไป”น.ส.สุนันทากล่าว

ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

