​กรมพัฒน์ฯ เกาะติดพฤติกรรมซื้อขายหัวบริษัท เร่งสกัด ป้องกันนำไปทำผิดกฎหมาย

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตือน หลังพบพฤติกรรมซื้อขายหัวบริษัท หรือบริษัทเปล่า ชี้เสี่ยงทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เหตุผู้ขายยังคงต้องรับผิดชอบ หากยังไม่เปลี่ยนกรรมการ แล้วบริษัทถูกนำไปทำอะไรผิดกฎหมาย จะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ ส่วนผู้ซื้อ หากเป็นการถือหุ้นแทน เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทย ก็จะมีความผิด ย้ำทุกวันนี้ ตั้งบริษัทใหม่สุดง่าย ฝากถึงพวกตั้งบริษัทใหม่ แล้วนำไปขาย เปิดทางให้มิจฉาชีพ หากเจอเล่นงานหนัก  
         
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีมีการประกาศซื้อ-ขายหัวบริษัท หรือบริษัทเปล่า ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก ว่า กรมในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการจดทะเบียนนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ขอเตือนว่าการซื้อ-ขายบริษัทในลักษณะดังกล่าว เป็นการกระทำที่มีความเสี่ยงที่จะมีการนำบริษัทดังกล่าวไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย อันจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ
         
โดยความเสี่ยงต่อผู้ขาย แม้จะมีการตกลงซื้อ-ขายกันแล้ว แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการ และผู้ถือหุ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อกรม กรรมการเดิมยังคงต้องรับผิดชอบในทุกการกระทำของบริษัท หากผู้ซื้อนำบริษัทที่สวมสิทธิ์ไปใช้ผิดกฎหมาย เช่น นำไปฉ้อโกงประชาชน ใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน ออกใบกำกับภาษีปลอมเพื่อการทุจริตภาษี กรรมการเดิมอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ในฐานะผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล แม้ว่าตนจะไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดนั้นเลยก็ตาม
         
ส่วนความเสี่ยงต่อผู้ซื้อ หากการซื้อ-ขายบริษัทดังกล่าว มีลักษณะเป็นการถือหุ้นแทน (นอมินี) เพื่อเอื้อประโยชน์ให้คนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจในประเทศไทยโดยหลีกเลี่ยงบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ทั้งผู้ขาย (คนไทย) และผู้ซื้อ (คนต่างด้าว) อาจมีความผิดตามกฎหมายในฐานะผู้ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าว
         


นายพูนพงษ์กล่าวว่า ปัจจุบันการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดำเนินการผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล (DBD Biz Regist) ซึ่งเป็นการการันตีได้ว่าบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเป็นบริษัทใหม่ที่ไม่มีภาระผูกพันใด ๆ และสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกกิจการ หากไม่ประสงค์จะดำเนินกิจการต่อ ควรดำเนินการจดทะเบียนเลิกและเสร็จการชำระบัญชีให้ถูกต้องตามกฎหมายและเพื่อไม่ให้มีการนำบริษัทไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายต่อไปได้
         
“กรมขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลสถานะนิติบุคคลอย่างรอบคอบโดยสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรม (www.dbd.go.th) โดยเข้าไปที่บริการออนไลน์ เลือก DBD DataWarehouse+ หรือที่ datawarehouse.dbd.go.th และหากพบเห็นการกระทำที่น่าสงสัย หรือการชักชวนให้ดำเนินการที่ส่อไปในทางทุจริต สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า Call Center 1570 หรือผ่านช่องทาง Line Official Account : @DBD1570”นายพูนพงษ์กล่าว
         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เกิดขึ้น มีการเสนอขายบริษัทที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลแล้ว แต่ยังมิได้เริ่มประกอบกิจการ หรือหยุดประกอบการไปแล้ว โดยมีพฤติกรรม คือ มีการโฆษณาจูงใจด้วยคุณสมบัติ เช่น จดทะเบียนมานานหลายปี มีทุนจดทะเบียนตามที่ผู้ซื้อต้องการ มีสถานะสะอาด กล่าวคือ ไม่มีภาระหนี้สินผูกพัน และมีการยื่นงบการเงินตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น ซึ่งยังไม่พบว่าการซื้อขายบริษัทในลักษณะนี้ จะถูกนำไปใช้อะไร แต่มีความเสี่ยงที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ปกติ หรือดำเนินธุรกิจที่เสี่ยงหรือผิดกฎหมาย เพราะคนที่อยากทำธุรกิจจริง จะดำเนินการจัดตั้งบริษัทแบบถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องมาซื้อบริษัทที่มีการจัดตั้งไว้แล้ว โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะตรวจสอบอย่างเข้มข้น และหากพบความผิดปกติ ก็จะดำเนินการตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ต่อไป

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง