กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โชว์ผลการดำเนินโครงการ Special Task Force : STF นำทัพผู้ส่งออกไทยลุยขยายตลาด 4 ภูมิภาค 5 คณะ ประสบผลสำเร็จเกินคาด ทำเงินเข้าประเทศกว่า 3 พันล้านบาท ผู้ประกอบการประทับใจ อยากให้จัดต่อเนื่อง เผยเตรียมลุยต่ออีก 3 คณะช่วง 3 เดือนสุดท้าย ไปจีน เวียดนาม และมุมไบ

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงผลสำเร็จการจัดทำโครงการ Special Task Force : STF เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ว่า กรมได้ร่วมมือกับภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย คัดเลือกตลาดเป้าหมายที่เป็นตลาดศักยภาพใหม่ใน 4 ภูมิภาค และทำการจัดคณะผู้แทนการค้ารวม 5 คณะ เดินทางไปยังลาตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ 2 คณะ ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.2568 ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าว่าจะขายสินค้าได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท แต่ผลการดำเนินการจริงปรากฏว่าทะลุเป้าทำได้ 3,028.56  ล้านบาท ถือว่าประสบความสำเร็จสูงมาก

โดยคณะผู้แทนการค้า 5 คณะ ประกอบด้วย ลาตินอเมริกา (อาร์เจนตินา ชิลี บราซิล) กลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักร วัสดุก่อสร้าง อาหารกระป๋องและขนมขบเคี้ยว มูลค่า 595.47 ล้านบาท ตะวันออกกลาง (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) กลุ่มสินค้าอาหารอนาคต อาหารสัตว์และอาหารสัตว์เลี้ยง มูลค่า 207.33 ล้านบาท แอฟริกา (มาลี เซเนกัล โกตดิวัวร์) กลุ่มสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรและเครื่องจักรแปรรูป มูลค่า 796.76 ล้านบาท อินเดีย กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร วัสดุก่อสร้าง และสินค้าโครงการใหญ่ มูลค่า 1,329 ล้านบาท และอินเดีย กลุ่มสินค้าอาหารและอุตสาหกรรมผลิตอาหาร มูลค่า 100 ล้านบาท



“ผลตอบรับจากหลายตลาด เป็นสิ่งที่เราเองก็นึกไม่ถึง อย่างลาตินอเมริกา โดยเฉพาะอาร์เจนตินาและชิลี ผู้ประกอบการประทับใจมาก ไม่คิดว่าตลาดชิลีจะสนใจสินค้าไทยมากขนาดนี้ มีการเรียกร้องให้เราไปขยายผลต่อ ทั้งตลาดแคริบเบียนและอเมริกากลาง เช่น โคลัมเบีย เปรู เอกวาดอร์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และภาคเอกชนยังสะท้อนว่า การเดินทางไปเปิดตลาดในลักษณะไปเป็นทีมกับภาครัฐ ทำให้เกิดความมั่นใจและสร้างพลังร่วม โดยหลายรายบอกตรงกันว่าถ้าไปเองคงลำบาก แต่ได้รัฐมาช่วย ถือเป็นการสนับสนุนที่ดีมาก”น.ส.สุนันทากล่าว

สำหรับโครงการ STF ใช้งบประมาณเพียง 33 ล้านบาท แต่สร้างผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจสูงถึง 3,028.56 ล้านบาท ช่วยให้ผู้ประกอบการกว่า 149 รายสามารถขยายตลาดส่งออกได้ และยังช่วยพยุงการจ้างงานในซัปพลายเชนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ทั้งด้านโลจิสติกส์ บรรจุภัณฑ์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง

ส่วนการดำเนินการตามนโยบาย นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการเน้นผลลัพธ์ภายใน 4 เดือน หรือ Quick Big Win ทำให้ DITP ได้วางแผนเจาะตลาดตรงเป้า ตรงสินค้า งบประมาณที่จำกัดต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2568 ได้เตรียมบุกตลาดใหม่เพิ่มเติมอีก 3 คณะ คาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มกว่า 190 ล้านบาท และเสริมความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการไทยในระยะยาว ได้แก่ 1.จีนตะวันตก (เฉิงตู ฉงชิ่ง สิบสองปันนา) กลุ่มสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และอาหารสัตว์เลี้ยง 2.อาเซียน (เวียดนาม) กลุ่มสินค้าแม่และเด็ก และ 3.อินเดีย (มุมไบ) กลุ่มสินค้าและบริการเพื่อสิ่งแวดล้อม