
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผย ส.ค.68 เดือนเดียว มีต่างชาติเข้ามาลงทุน 104 ราย นำเงินเข้า 66,076 ล้านบาท จ้างงาน 810 คน ส่วนยอดรวม 8 เดือน ลงทุน 687 ราย เพิ่ม 28% นำเงินเข้า 225,536 ล้านบาท เพิ่ม 125% จ้างงานคนไทย 4,895 คน ญี่ปุ่นนำโด่งลงทุนมากสุด ตามด้วยสิงคโปร์ จีน ฮ่องกงและสหรัฐฯ ส่วนในพื้นที่ EEC มีนักลงทุน 197 ราย เพิ่ม 21% เงินลงทุน 74,792 ล้านบาท
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เดือน ส.ค.2568 มีจำนวน 104 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 31 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 73 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 66,076 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจาก ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสหรัฐฯ มีการจ้างงานคนไทย 810 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการโปรแกรมออกแบบและพัฒนาเครื่องประดับ องค์ความรู้เกี่ยวกับแม่พิมพ์และการออกแบบ องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมกระบวนการผลิตด้วยหลักสถิติ เป็นต้น
ทั้งนี้ หากรวม 8 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-ส.ค.) มีจำนวน 687 ราย เพิ่มขึ้น 28% โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 181 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 506 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 225,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% และมีการจ้างงานคนไทย 4,895 คน เพิ่มขึ้น 96%
โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทยช่วง 8 เดือน ของปี 2568 สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ญี่ปุ่น 125 ราย คิดเป็น 18% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 71,844 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ ธุรกิจบริการตรวจสอบคุณภาพสินค้าประเภทเครื่องประดับและธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น เครื่องจักรทุกประเภท ชิ้นส่วนพลาสติกทุกประเภท ตัวถัง (frame) รวมทั้ง ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับรถบ้าน และรถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร
2.สหรัฐฯ 105 ราย คิดเป็น 15% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 3,433 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจนายหน้าหรือตัวแทนในการรับจองห้องพัก โรงแรม และกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ธุรกิจโฆษณา ธุรกิจบริการให้คำปรึกษาและคำแนะนำด้านการบริหารจัดการธุรกิจ และ ธุรกิจบริการรับจ้างผลิต เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ ยานยนต์ โลหะผสมสำหรับผลิตเครื่องประดับ และ Captive Screw for PCB
3.สิงคโปร์ 93 ราย คิดเป็น 13% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 68,495 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจนายหน้าและตัวแทนสำหรับการจองและซื้อขายโทเคนดิจิทัล (Digital Token) สำหรับโทเคนดิจิทัลที่ออกและดำเนินการโดยกระทรวงการคลัง ธุรกิจบริการ Data Center ธุรกิจบริการให้ใช้ระบบบริการทางการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานพาหนะ ชิ้นส่วนสำหรับ Optical Device และ Terminal Connector
4.จีน 87 ราย คิดเป็น 13% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 20,785 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจการจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบ สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ธุรกิจบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจบริการรับจ้างพัฒนาซอฟต์แวร์ และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น เครื่องจักรอัตโนมัติที่มีขั้นตอนการออกแบบระบบอัตโนมัติและระบบควบคุมการปฏิบัติงานด้วยสมองกลเอง ผลิตภัณฑ์โลหะและชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์จากผงโลหะ และ Motor สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า
5.ฮ่องกง 74 ราย คิดเป็น 11% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 12,372 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจบริการขุดเจาะปิโตรเลียม ภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานและสัญญาแบ่งปันผลผลิตในอ่าวไทย ธุรกิจบริการรับจ้างตัดโลหะ ธุรกิจบริการโทรคมนาคมแบบที่หนึ่ง ประเภทไม่มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนยานพาหนะ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า ผลไม้แปรรูป และ ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม
สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติในช่วง 8 เดือนของปี 2568 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 197 ราย คิดเป็น 29% ของนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้น 21% มูลค่าการลงทุน 74,792 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศจีน 48 ราย ลงทุน 14,862 ล้านบาท ญี่ปุ่น 47 ราย ลงทุน 27,153 ล้านบาท สิงคโปร์ 21 ราย ลงทุน 12,940 ล้านบาท และประเทศอื่น ๆ 81 ราย ลงทุน 19,837 ล้านบาท
โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ธุรกิจบริการออกแบบ จัดหาวัสดุและอุปกรณ์ ก่อสร้าง ติดตั้ง ทดสอบเครื่องจักรและระบบการทำงานต่าง ๆ สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม โดยการออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจบริการเขต Data Center และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม เครื่องใช้ไฟฟ้าไมโครเวฟ ชิ้นส่วนยานพาหนะ ผลิตภัณฑ์โลหะและชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูป เป็นต้น
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง