
“พาณิชย์”เดินหน้า 4 มาตรการ ช่วยเกษตรกร ผู้ประกอบการ ประชาชน รับมือวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่สงบและยังมีการปิดด่าน เดินหน้าดูแลสินค้า ห้ามขาด ห้ามแพง เชื่อมโยงตลาดและเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า ส่งเสริมการขายสินค้าไทยและหาตลาดเพิ่ม และประสานแบงก์ช่วยเหลือ
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่สงบและยังมีการปิดด่านชายแดนระหว่างกัน กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนิน 4 มาตรการเร่งด่วน เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดย 1.กำกับดูแลราคาและปริมาณสินค้า โดยให้เข้มงวดตรวจสอบสถานการณ์สินค้า ห้ามขาด ห้ามแพง เพื่อป้องกันการขาดแคลนและฉวยโอกาสขึ้นราคา และจัดหาสินค้าจำเป็นเข้าไปเสริมโดยเร็ว เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ยาทาและสเปรย์กันยุง และผ้าอ้อมเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งมีความต้องการมากกว่าปกติในช่วงนี้ โดยได้ประสานห้างร้านต่าง ๆ ให้เติมเต็มสินค้าและวางแผนบริหารจัดการสินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบป้ายราคา เครื่องชั่ง และราคารับซื้อสินค้าเกษตรอย่างเข้มงวด และเตรียมจัดงาน “ธงฟ้าราคาประหยัด” เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนด้วย
2.เชื่อมโยงตลาดและจัดหาช่องทางการจำหน่ายสินค้า โดยที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เชื่อมโยงระบายผลผลิตทางการเกษตร 19 ครั้ง ปริมาณเกือบ 79 ตัน มูลค่ากว่า 2.55 ล้านบาท และเปิดจุดจำหน่ายสินค้า 33 ครั้ง มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท อีกทั้งนำผู้ประกอบการเข้าร่วมมหกรรมการค้าชายแดน 5 ครั้ง สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการนำสินค้าอุปโภคบริโภค ผักและผลไม้ กว่า 600 ตัน ไปจำหน่ายในตลาดสปป.ลาว เมียนมา มาเลเซีย และจีน และจัดกิจกรรม “Thai Fruits Festival 2025” อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายผลผลิตผลไม้ผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น ปั๊มน้ำมัน สายการบิน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน และผ่านบริการของไปรษณีย์ไทยฟรี ทำให้มีสินค้าหรือผลผลิตตกค้างไม่มาก โดยเดือน ส.ค.2568 จะมีการเปิดจุดจำหน่ายเพิ่มเติม และนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าชายแดนที่ จ.สตูล วันที่ 7-10 ส.ค.2568 รวมทั้งช่วยประสานด้านโลจิสติกส์ในการขนส่งสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงชายแดนที่ปิดด่าน ทั้งการส่งสินค้าทางเรือ และส่งผ่าน สปป.ลาว
3.ส่งเสริมสินค้าไทยในกัมพูชาและตลาดทางเลือก กระทรวงพาณิชย์ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยในหลายรูปแบบตามสถานการณ์ เช่น การเจรจาจับคู่ธุรกิจผ่านทางช่องทางออนไลน์ การหารือกับเครือข่ายผู้นำเข้าสินค้า รวมทั้งห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ และมีแผนงานแสดงสินค้าเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยในกัมพูชา ขณะเดียวกัน จะผลักดันการหาตลาดใหม่ในประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียนด้วย
4.สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) กระทรวงพาณิชย์ได้ประสาน SME D Bank และ EXIM Bank เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้นำเข้าส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น การพักชำระหนี้ การเสริมทุนหมุนเวียน และให้เงินกู้ระยะยาว พร้อมสำรวจความต้องการสินเชื่อเพิ่มเติมและประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
“กระทรวงพาณิชย์จะดูแลผู้ประกอบการ เกษตรกร และพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถค้าขายและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เกษตรกรมีรายได้ที่เหมาะสม และพี่น้องประชาชนสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขและปลอดภัย ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือประสานงานผ่านทางสายด่วน โทร 1203 หรือติดต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ได้”นายจตุพรกล่าว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง