“สุชาติ”ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ลำไยภาคเหนือ เผยเตรียมมาตรการผลักดันราคาให้กับเกษตรกร ตั้งเป้าดึงผลผลิตออกจากตลาด เป้าหมายรวม 2.52 แสนตัน ทั้งรวบรวมส่งออก รณรงค์บริโภค เชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร ดึงเอกชนรายใหญ่ซื้อทำ CSR สนับสนุนกล่อง ฟรีค่าขนส่ง เชื่อมโยงผู้ประกอบการซื้อตรง ดันเข้าปั๊มน้ำมัน เพิ่มช่องทางใหม่ผ่านตู้เต่าบิน แอร์เอเชีย สั่งเพิ่มรวบรวมอบแห้ง พร้อมลุยขายต่างประเทศ เป้ามูลค่า 5,500 ล้านบาท

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ผลผลิตลำไยภาคเหนือฤดูกาลผลิตปี 2568 ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด ว่า ได้ตรวจเยี่ยมสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด อ.สันป่าตอง แปลงสวนลำไย และบริษัทแปรรูปลำไย ณ บริษัท อาร์ เค ฟู๊ด จำกัด อ.ป่าซาง จ.ลำพูน โดยได้หารือกับกลุ่มเกษตรกรของสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางบรรเทาปัญหาราคาตกต่ำและการกระจุกตัวของผลผลิต เพราะปีนี้ผลผลิตลำไยเพิ่มขึ้นจาก 9 แสนตันเป็นกว่า 1 ล้านตัน จึงต้องเข้ามาช่วยดูแล และวางแผนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมมาตรการไว้แล้ว

โดยมาตรการที่จะดำเนินการ ตั้งเป้าบริหารจัดการลำไยภาคเหนือจำนวน 151,000 ตัน ผ่าน 8 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.รวบรวมลำไย (สดช่อ) เพื่อส่งออก ปริมาณ 15,000 ตัน 2.จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ Thai Fruits Festival 2025 ทั่วประเทศ 3.เชื่อมโยงลำไยผ่านเครือข่ายพันธมิตรปริมาณรวม 65,555 ตัน โดยใช้กลไกผู้ประกอบการ และห้างค้าปลีก-ค้าส่งในการร่วมมือระบายผลผลิต โดยให้ผู้ประกอบการรับซื้อลำไย (รูดร่วง) เกรด B ปริมาณ 60,000 ตัน ในราคานำตลาดไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 4-5 บาท และเชื่อมโยงนำมาจำหน่ายในห้างแมคโคร โลตัส บิ๊กซี ท็อปส์ โก-โฮลเซลล์ และเดอะมอลล์ รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง เพิ่มอีกปริมาณ 5,555 ตัน

4.สนับสนุนการรับซื้อผ่านหน่วยงานรัฐ เอกชนผ่านบริษัทตลาดหลักทรัพย์ หน่วยงานราชการ บริษัทมหาชน เพื่อทำ CSR ตลอดทั้งฤดูกาล ปริมาณ 1,380 ตัน 5.สนับสนุนกล่องใส่ลำไย ฟรีค่าขนส่งโดยบริษัทไปรษณีย์ไทย 6.เชื่อมโยงผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร รับซื้อผลผลิตโดยตรง ปริมาณ 18,000 ตัน 7.เชื่อมโยงสินค้าเข้าสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 1,000 ตัน 8.ขยายช่องทางใหม่ ๆ ให้กับลำไย อาทิ ทำเป็นอาหาร เครื่องดื่มผ่านตู้เต่าบิน แอร์เอเชียซื้อไปทำอาหารและเครื่องดื่ม



นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มปริมาณเป้าหมายการรวบรวมรับซื้อลำไย (รูดร่วง) เกรด A เพื่ออบแห้งส่งออกต่างประเทศ จากเดิม 50,000 ตัน (สด) เพิ่มเป็น 101,000 ตัน โดยผ่านโรงอบลำไยที่เป็นเครือข่ายของกรมการค้าภายในกว่า 50 แห่ง และได้กำชับให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในกลุ่ม 8 จังหวัดภาคเหนือ กำกับดูแลโรงอบลำไยในพื้นที่ ให้เปิดรับผลผลิตจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดทำแผนเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดให้มีโรงอบรองรับเพียงพอกับปริมาณลำไยสดทั้งฤดูกาล
         
ส่วนการส่งออกลำไยไปต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะเดินหน้าแผนตลาดการส่งออกอย่างจริงจัง ผ่านกลไกทูตพาณิชย์ ทั้ง 58 แห่งทั่วโลก ในการเร่งหาตลาดส่งออกลำไย และจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกผลไม้ ทั้งในรูปแบบการจับคู่เจรจาธุรกิจ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ และการส่งเสริมการขายผลไม้ผ่านห้างสรรพสินค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์ในต่างประเทศ คาดว่า จะก่อให้เกิดมูลค่าเจรจาการค้ากว่า 5,500 ล้านบาท รวมทั้งจะประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ผลไม้ไทยผ่านคาแรคเตอร์ “น้องฉ่ำฉ่ำ” ที่ได้เปิดตัวไปแล้วในช่วงงานแสดงสินค้าอาหาร Thaifex-Anuga 2025  
         
นายสุชาติกล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วางแผนจัดการเรื่องโซนนิ่ง และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ โดยได้ดูแลต้นทุนการผลิตให้พี่น้องเกษตรกร เพราะแม้ผลผลิตดี ราคาดี ถ้าต้นทุนสูง ก็ไม่ได้กำไร จึงต้องแก้ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยมีนโยบายธงเขียว ในการช่วยเหลือเกษตรกร จำหน่ายปุ๋ยและยาฆ่าแมลงราคาถูก เพื่อทำให้ต้นทุนเกษตรกรถูกลง เป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะทำตั้งแต่ต้นน้ำ และขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจว่ากระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าสู้ดันเรื่องลำไยอย่างเต็มที่จนจบฤดูกาล ส่วนสินค้าเกษตรชนิดอื่น จะเร่งเข้าไปดูแลตลาดอย่างต่อเนื่องไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำเดิมด้วย