”พาณิชย์” เผยส่งออกปี 60 มูลค่าส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.36 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โต 9.9% สูงสุดในรอบ 6 ปี และยังได้ดุลการค้า 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หลังเศรษฐกิจโลก-คู่ค้าฟื้น ระบุการส่งส่งออกไปซีแอลเอ็มวี-อินเดีย ทำสถิติมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน ส่วนปี 61 คาดส่งออกแนวโน้มดีต่อเนื่อง ประมาณการณ์ขยายตัวที่ 5-7%
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ในปี 2560 การส่งออกของไทยมีมูลค่า 236,694 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.9% จากปี 2559 โดยเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี นับจากปี 2555 ที่ขยายตัวถึง 15.15% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 8.008 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.06% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 222,763.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.71% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 7.629 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.77% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 13,930.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 378,476.6 ล้านบาท
ส่วนการส่งออกเฉพาะเดือนธ.ค.2560 มีมูลค่า 19,741 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.63% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.2559 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 642,582.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.36% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,019.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.60% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 659,753.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.67% ส่งผลให้มีดุลการค้าขาดดุล 278.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 17,171.2 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่ทำให้มูลค่าการส่งออกทั้งปี 2560 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มาจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และอินเดีย มีมูลค่าส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 25,191 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.1% และมูลค่า 6,487 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25.8% ตามลำดับ รวมถึงสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.3% สหภาพยุโรป (15 ประเทศ) เพิ่มขึ้น 7.6% ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 8.9% ส่วนอาเซียน (9 ประเทศ) เพิ่ม 8.9% จีน เพิ่ม 23.7% แอฟริกา เพิ่ม 10.7% เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการที่เศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้า ขยายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นมาก จนส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งเกษตรและอุตสาหกรรม ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม อยู่ที่ 188,148 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 9.4% จากปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 จากการเพิ่มขึ้นของยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 5.6%, เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ 13.7%, เครื่องใช้ไฟฟ้า 6.5%, เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ 111%, ผลิตภัณฑ์ยาง 55.9%, เคมีภัณฑ์ 20.4%, น้ำมันสำเร็จรูป 30.2% ขณะที่การส่งออกเครื่องโทรศัพท์ไปญี่ปุ่นมาแรง มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของการส่งออกไทยไปญี่ปุ่น ที่ 316 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 54.1%
ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร อยู่ที่ 34,950 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 14.4% จากการเพิ่มขึ้นของข้าว 17.2% ด้วยปริมาณการส่งออก 11.628 ล้านตัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์, ยางพารา 35.7%, อาหาร 12.4%, น้ำตาลทราย 7.3% เป็นต้น
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2561 สนค.ได้ประมาณการณ์การขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไว้ที่ 5-7% เมื่อเทียบกับปี 2560 ด้วยมูลค่า 248,529-253,263 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหากจะให้ขยายตัว 5% แต่ละเดือนต้องส่งออกให้ได้ 20,711 ล้านเหรียญสหรัฐ และหากต้องการให้ขยายตัวที่ 7% แต่ละเดือนต้องให้ได้ 21,105 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีสมมติฐาน ค่าเงินบาท 32.0-34.0 บาท/เหรียญสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ 55-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาสินค้าสินค้าอุตสาหกรรม โต 3-5% และราคาส่งออกสินค้าเกษตร โต 1.0-3.0% อย่างไรก็ตาม การรขยายตัว 5-7% เป็นเพียงการประมาณการณ์ของสนค. กระทรวงพาณิชย์ จะประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการราวเดือนก.พ.นี้
สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกปี 2561 ยังคงเป็นราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีโอกาสผันผวน, นโยบายการค้าของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงอาจมีการใช้มาตรการกีดกันการค้ามากขึ้น เป็นต้น ส่วนสินค้าที่คาดว่ามีแนวโน้มการส่งออกดีในปี 61 ยังคงเป็นสินค้าอุตสาหกรรมหลักของไทย ทั้งรถยนต์และส่วนประกอบ, เครื่องจักรกล และส่วนประกอบ, คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน, อัญมณีไม่รวมทองคำ, เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์, แผงวงจรไฟฟ้า, ทองคำ, น้ำมันสำเร็จรูป, เคมีภัณฑ์ เป็นต้น
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

