“พาณิชย์”เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายหารือ วางกรอบการทำงานเพื่อให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง หลังรัฐบาลประกาศลอยตัวราคาไปแล้ว พร้อมส่งทีมออกตรวจสอบราคาลดลงจริงหรือไม่ ย้ำสินค้าที่ได้ประโยชน์จากน้ำตาลลด ทั้งน้ำอัดลม น้ำหวาน ต้องหาทางชดเชยให้ผู้บริโภคด้วย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายทั้งหมด ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า มาหารือภายในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาต้นทุนน้ำตาลทรายที่แท้จริง และการดูแลราคาปลายทางให้เหมาะสมกับต้นทุน หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลทรายไปแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคโดนเอารัดเอาเปรียบ
ทั้งนี้ ยังได้เตรียมการจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายน้ำตาลทรายในตลาด ทั้งตลาดสด ร้านค้าส่งค้าปลีกทั่วไป และห้างสรรพสินค้า เพื่อตรวจสอบดูว่าราคาน้ำตาลทรายได้ปรับตัวลดลงจริงหรือไม่ โดยจะเริ่มทันที หลังจากที่ได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ว่าสต๊อกน้ำตาลทรายเก่าได้หมดไปแล้ว เพราะต้องให้โอกาสผู้ค้าที่รับน้ำตาลทรายต้นทุนเก่าจำหน่ายให้หมดก่อน
ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเข้าไปตรวจสอบและติดตามดูต้นทุนของสินค้าที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบ เช่น น้ำอัดลม น้ำหวานชนิดต่างๆ ว่ามีต้นทุนลดลงอย่างไร เพื่อที่จะได้มีมาตรการดูแลราคาให้กับผู้บริโภคอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องขอให้ผู้ผลิตปรับลดราคาลงตามต้นทุนที่ลดลง แต่อาจจะเป็นการจัดโปรโมชั่นในช่วงที่ต้นทุนลดลงมากได้หรือไม่ เพื่อคืนความสุขให้กับผู้บริโภค
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า กระทรวงฯ ยังจะคงน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุมต่อไป เพื่อให้ยังคงสามารถมีมาตรการในการบริหารจัดการได้ เพราะน้ำตาลทรายเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ และจะยังคงเพดานราคาจำหน่ายปลีกสูงสุดไว้ที่ 23.50 บาท ยังไม่มีความคิดที่จะยกเลิก โดยการคงเพดานราคาสูงสุด ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาปรับสูงขึ้นจนเกินไป จนส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม
ส่วนการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่มจำนวนสินค้าควบคุมอีก 6 รายการ คือ สบู่ก้อน สบู่เหลว , แชมพู , น้ำยาปรับผ้านุ่ม , ผลิตภัณฑ์ล้างจาน , ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ และยางพารา ซึ่งเพิ่มจากปี 2560 ที่มี 47 รายการ เป็น 53 รายการนั้น ทำให้กระทรวงฯ เข้าไปดูแลราคาสินค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภค ซึ่งที่ผ่านมา มีปัญหาได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่ามีการลดขนาดบรรจุ แต่ยังคงขายราคาเดิม ทำให้จากนี้ไป จะเข้าไปดูแลได้ดียิ่งขึ้น ส่วนผ้าอ้อม เป็นสินค้าจำเป็นสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มีความนิยมใช้กันเพิ่มมากขึ้น
สำหรับยางพารา เป็นสินค้าเกษตรรายการใหม่ที่เสนอเข้าเป็นสินค้าควบคุม จากก่อนหน้านี้ มีสินค้าเกษตรที่อยู่ในบัญชีควบคุมแล้ว เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ข้าวสาลี ปาล์มน้ำมัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ที่จะเข้าไปดูแลราคาให้กับชาวสวนยางได้ดีขึ้น เพราะหากมีปัญหา ก็สามารถที่จะมีมาตรการเข้ามาบริหารจัดการได้ จากที่ก่อนหน้านี้ ทำไม่ได้
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

