กรมการค้าภายในประสานผู้ประกอบการภาคเอกชน เข้ารับซื้อพริกสดจากเกษตรกรในพื้นที่อำเภอฮอดและอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ในราคากิโลกรัมละ 6-8 บาท หลังผลผลิตออกมาก ราคาตกต่ำ เผยหลังเข้ารับซื้อ ราคาปรับตัวดีขึ้น จนเกินต้นทุนการผลิต เกษตรกรพอใจ
         
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ประสานความร่วมมือกับบริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอาหาร ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงประกอบอาหาร และผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน จากจังหวัดพิษณุโลก และบริษัท เอส.แอนด์ เจ โปรดักท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จากจังหวัดลำพูน ลงพื้นที่อำเภอฮอดและอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ และเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินสการเชื่อมโยงตลาดระหว่างเกษตรกรกับภาคอุตสาหกรรมการแปรรูป เพื่อรับซื้อพริกสดจากเกษตรกรในราคากิโลกรัม (กก.) ละ 6-8 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป และคุ้มต้นทุนการผลิตของเกษตรกร
         
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ผลผลิตพริกในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทำให้ปริมาณผลผลิตสูงเกินความต้องการของตลาด ส่งผลกระทบต่อราคาพริกหน้าสวนตกต่ำลง โดยมีราคาซื้อขายเพียงกิโลกรัมละ 3–6 บาท ขณะที่ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 บาท สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอฮอดและอำเภออมก๋อย ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกพริกสำคัญของจังหวัด
         


โดยข้อมูลจากสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ปลูกพริกกระจุกตัวอยู่ในอำเภอฮอดและอำเภออมก๋อย รวมกันประมาณ 3,500 ไร่ ในปี 2568 คาดว่าจะมีผลผลิตรวมประมาณ 8,500 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ซึ่งมีผลผลิตรวม 5,200 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 39%
         
นายวิทยากรกล่าวว่า การเข้าไปรับซื้อครั้งนี้ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) จะรับซื้อพริกจากเกษตรกร อำเภอฮอด จำนวน 9,000 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 8 บาท และบริษัท เอส.แอนด์ เจ โปรดักท์ จำกัด รับซื้อพริกแดงจากเกษตรกร อำเภอฮอดและอำเภออมก๋อย โดยเข้าไปรับซื้อตั้งแต่ 5 พ.ค.2568 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีเป้าหมายการรับซื้อ 200,000 กิโลกรัม ในราคารับซื้อกิโลกรัมละ 6-7 บาท ซึ่งการเข้าไปรับซื้อดังกล่าว ส่งผลให้ราคาพริกในพื้นที่ปรับตัวดีขึ้นจากเดิมที่ขายกัน กก.ละ 4–5 บาท เพิ่มเป็น กก. ละ 6-8 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพึงพอใจและสามารถดำรงชีพได้

“ขอขอบคุณบริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอส.แอนด์ เจ โปรดักท์ จำกัด ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการเข้ารับซื้อพริกจากเกษตรกรในช่วงเวลาสำคัญนี้ และกรมยังจะเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับผู้ประกอบการแปรรูปในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงตลาดและรองรับผลผลิตพริกจากเกษตรกรให้มีทางเลือกในการจำหน่ายมากยิ่งขึ้น รวมถึงเตรียมมาตรการเสริมในกรณีที่ปริมาณผลผลิตเกินความต้องการของตลาด เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำซ้ำอีก”นายวิทยากรกล่าว