“สนธิรัตน์”ตั้งเป้าผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมในภูมิภาคอาเซียนและจีน แนะผู้ประกอบการไม่ควรเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่ต้องรุก ยัน”พาณิชย์”พร้อมหนุนเต็มที่ เตรียมคัดรายที่มีศักยภาพจัดโรดโชว์ต่อเนื่องตลอดปี 61 มั่นใจแม้เปิดเสรีกับออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์เต็มรูปแบบในปี 64 และ 68 ไม่มีผลกระทบ เล็งส่งทีมลงพื้นที่ติวเข้มรับมือต่อ ที่สระบุรี ขอนแก่น และกาญจนบุรี
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยและคณะ เข้าพบเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2561 ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งกับกลุ่มเกษตรกรว่ามีนโยบายต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมในภูมิภาคอาเซียนและจีน เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมโคนมไทยได้มีการพัฒนาและปรับตัวไปมาก เน้นการผลิตนมที่มีคุณภาพและมาตรฐานเข้าสู่ตลาด รวมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม เช่น โยเกิร์ต เนย ชีส ไอศกรีม เป็นต้น ไทยจึงไม่ควรเป็นฝ่ายตั้งรับอีกต่อไป ต้องพลิกวิกฤติเป็นโอกาส รุกตลาดอาเซียนโดยเฉพาะ CLMV และจีน โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน และ FTA อาเซียน-จีน ที่ได้เปิดตลาดให้กับไทยโดยการยกเลิกภาษีนำเข้านมและผลิตภัณฑ์นมเหลือ 0%
“ผมเห็นว่าการขยายการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยออกสู่ตลาดต่างประเทศ จะช่วยเพิ่มปริมาณความต้องการน้ำนมโคดิบจากเกษตรกรในประเทศ นอกเหนือจากการผลิตเพื่อป้อนโครงการนมโรงเรียนของภาครัฐ โดยกระทรวงฯ มีแผนที่จะนำผู้ประกอบการนมและผลิตภัณฑ์ของไทยที่มีความพร้อมและสนใจไปโรดโชว์เปิดตลาดในงานแสดงสินค้า Top Thai Brands 2018 ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจัดในภูมิภาคอาเซียนและจีน ตลอดปี 2561 และพร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อหาช่องทางการทำตลาดให้นมไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย”นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือการเปิดตลาดให้กับสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ทุกรายการ โดยยกเลิกมาตรการกำหนดปริมาณนำเข้าและลดภาษีนำเข้าเป็น 0% ในปี 2564 และปี 2568 ได้มอบกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโคนมในภูมิภาคต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ดังกล่าว ซึ่งได้ลงพื้นที่ยังไปยังจังหวัดเชียงใหม่แล้ว และจากนั้นจะสัญจรลงพื้นที่ภาคกลางที่จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 29-30 ม.ค.2561 และมีกำหนดจะไปที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงเดือนก.พ.2561 ต่อไป
ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรที่เข้าพบ ยังได้ขอบคุณที่กระทรวงพาณิชย์เห็นถึงความสำคัญของสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของเกษตรกรไทย ที่ได้ส่งทีมลงพื้นที่ พบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สหกรณ์โคนม และผู้เกี่ยวข้องในกลุ่มอุตสาหกรรมโคนม และมีแผนที่จะช่วยผลักดันการส่งออกและหาช่องทางการตลาดให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ซึ่งได้ยืนยันไปว่า จะเดินหน้าให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และกำลังจะผลักดันให้เครื่องหมายการค้า Smile Milk เป็นแบรนด์กลางสำหรับผลิตภัณฑ์นมของสหกรณ์โคนมทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถจำหน่ายเชิงพาณิชย์ด้วย
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
กดคลิก Follow ด้านล่าง

