ภาพจากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ 

“พาณิชย์”เผยรัฐมนตรีเศรษฐกิจกลุ่มประเทศแม่โขง-ล้านช้าง ประกาศเดินหน้าร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 63 พร้อมยกระดับการอำนวยความสะดวกทางการค้า ส่งเสริม MSMEs ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระบุจีนยังจัดสรรเงินเกือบ 60 ล้าน ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับสมาชิก คาดช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเพียบ
         
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่โขง-ล้านช้าง ((Mekong-Lancang Cooperation: MLC) ครั้งที่ 2 ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2561 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีเศรษฐกิจประเทศ MLC 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีน ได้มีการประชุมหารือและออกแถลงการณ์ร่วมในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
         
โดยแนวทางการดำเนินการ จะเน้นใน 7 ประเด็นหลัก คือ การร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดนระหว่างประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง ระยะ 5 ปี , การตั้งเป้าหมายการค้าระหว่างกันเพิ่มเป็น 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 เพิ่มจาก 190,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน , การยกระดับการอำนวยความสะดวกทางการค้า , การส่งเสริมความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แก่ธุรกิจขนาดไมโคร ขนาดกลาง และขนาดย่อม (MSMEs) , การส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุน , การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน และการส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค
         
“แถลงการณ์ร่วมดังกล่าว จะช่วยต่อยอดความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีนอย่างรอบด้าน ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยกับข้อริเริ่มแถบหนึ่งหนึ่งเส้นทางของจีน และยังสอดคล้องกับการดำเนินยุทธศาสตร์ CLMVT ของกระทรวงพาณิชย์”นายสนธิรัตน์กล่าว
         
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในการขยายการค้าการลงทุนกับประเทศ MLC คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2561 ได้เห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง กับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อรับจัดสรรเงิน 1,701,800 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 59,500,000 บาท จากกองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง มาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับสมาชิก MLC จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษข้ามพรมแดน 2.โครงการพัฒนาการอำนวยความสะดวกแนวชายแดนเพื่อพัฒนาการค้าและระบบโลจิสติกส์ 3.การจัดกิจกรรมเวทีภาคธุรกิจแม่โขง-ล้านช้าง และ 4.การพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในเขตชนบท และยังได้เห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ลงนาม MOU กับสถาบันความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง (MekongInstitute: MI) เพื่อร่วมขับเคลื่อนโครงการด้วย ซึ่งกระทรวงฯ ได้มอบหมายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้บริหารโครงการร่วมกับ MI 

“ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการเป็นผู้บริหารโครงการ คือ ผู้ประกอบการและนักธุรกิจของไทยจะได้รับโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่โครงการจัดขึ้น เช่น การจับคู่ทางธุรกิจ การจัดฝึกอบรมสัมมนาในเรื่องการอำนวยความสะดวกแนวชายแดน การพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการในอนุภูมิภาค”นายสนธิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ จีนได้จัดตั้งกองทุนพิเศษแม่โขง–ล้านช้างขึ้นในการประชุมผู้นำ MLC ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมี.ค.2559 โดยมีมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี โดยโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินจากจีนแล้วมี 132 โครงการ เป็นด้านเศรษฐกิจของไทย 4 โครงการ

สำหรับมีมูลค่าการค้าของไทยกับประเทศสมาชิก MLC 5 ประเทศ มีมูลค่ารวม 94,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของมูลค่าการค้าไทยกับโลก และสมาชิก MLC มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยประมาณร้อยละ 7 ต่อปี MLC จึงเป็นอนุภูมิภาคที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงและน่าจับตามองอย่างยิ่ง