ส่งออกเดือนพ.ย.มูลค่า 21,434.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.36% เป็นการเพิ่มต่อเนื่อง 9 เดือนติดต่อกัน ส่วนยอดรวม 11 เดือน เพิ่ม 10.01% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี “พาณิชย์”คาดอีกเดือนเดียวหากส่งออกได้ 19,973 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งปีโตเกิน 10% แน่ ส่วนปี 61 คาดจะยังโตต่อเนื่อง มองเป้าที่ 6-6.5% มูลค่าทะลุ 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
         
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือนพ.ย.2560 มีมูลค่า 21,434.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.36% เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบปีนี้และเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 นับจากมี.ค.2560 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 19,671.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.71% โดยเกินดุลการค้ามูลค่า 1,763 ล้านเหรียญสหรัฐ
         
ส่วนการส่งออกในช่วง 11 เดือนของปี 2560 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 216,953.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.01% เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี นับจากปี 2554 ที่เพิ่มขึ้น 17.19% และการนำเข้ามีมูลค่า 202,744.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.53% โดยได้ดุลการค้ามูลค่า 14,208.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
         
ทั้งนี้ การส่งออกที่เพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 19.2% โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 มีสินค้าสำคัญที่ส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ข้าว เพิ่ม 49.7% ผักผลไม้สดแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 20.9% ยางพารา เพิ่ม 14.1% น้ำตาลทราย เพิ่ม 28.4% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เพิ่ม 13.5% ส่วนมันสำปะหลัง ลด 10.1% กุ้งสดแช่แข็งและกุ้งแปรรูป ลด 18.7% และสินค้าอุตสาหกรรม  
         
สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 13.3% เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 มีสินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง เพิ่ม 61.4% คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เพิ่ม 17.8% เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 122.5% เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เพิ่ม 36.6% ส่วนทองคำ ลด 72.7% เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ลด 6.9%
         
ทางด้านตลาดส่งออกสำคัญ เพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยตลาดหลักเพิ่ม 8.7% เป็นการเพิ่มขึ้นของตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป (15 ประเทศ) 10.7% , 9.5% และ 5.3% ตามลำดับ ตลาดศักยภาพสูง เพิ่ม 18.1% จากการเพิ่มขึ้นของตลาดจีน 16.9% เอเชียใต้ 41.8% ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 79 เดือน ตลาดอาเซียนเดิม 5 ประเทศ เพิ่ม 27.1% เพิ่มสูงสุดในรอบ 21 เดือน ตลาด CLMV เพิ่ม 9.6% และตลาดศักยภาพรอง เพิ่ม 15.6% เช่น ทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และกลุ่ม CIS เพิ่ม 26% , 3.9% , 47% และ 65.3% ตามลำดับ
         
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลืออีก 1 เดือนของปีนี้ คาดว่าจะยังคงส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยหากส่งออกได้ 19,973 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้การส่งออกทั้งปีทำได้เกิน 10% มีมูลค่ารวม 236,926 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนปี 2561 ประเมินว่าการส่งออกจะยังคงขยายตัวได้ดี และหากดูตามสถิติตัวเลขขณะนี้ คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ในระดับ 6-6.5% ส่วนตัวเลข 7% เอาไว้ลุ้น ซึ่งตัวเลขนี้ ยังไม่ใช่เป้าหมายการส่งออกอย่างเป็นทางการ ต้องรอการประเมินก่อน

โดยคาดการณ์ส่งออก 6% แต่ละเดือนจะต้องส่งออกได้เฉลี่ย 20,833 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดรวมทั้งปีจะมีมูลค่า 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งออก 6.5% แต่ละเดือนต้องส่งออกได้เฉลี่ย 20,933 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดรวมทั้งปี 251,200 ล้านเหรียญสหรัฐ และถ้าส่งออกเกิน 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้ส่งออกโตถึง 7% โดยตัวเลขดังกล่าว มีสมมติฐานจากการขยายตัวเศรษฐกิจในปี 2561 ที่ 4% ราคาน้ำมัน 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และค่าเงินบาทอยู่ที่ 33-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ