“พาณิชย์”จัดงาน “GI Market สัญจร 2024” ประเดิมครั้งแรกที่ จ.อุดรธานี คัดสุดยอดสินค้า GI กว่า 30 รายการจากทั่วประเทศ มาให้พี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง ได้ชอป ชิม ชิลล์ ที่เซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี วันที่ 26 มิ.ย.-2 ก.ค.นี้ ส่วนครั้งถัดไป เตรียมลงใต้ จ.นครศรีธรรมราช
         
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้จัดงาน “GI Market สัญจร 2024” ครั้งแรกในส่วนภูมิภาค ที่ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี จ.อุดรธานี โดยคัดสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากทั่วประเทศกว่า 30 รายการ มาจัดจำหน่าย ให้กับพี่น้องประชาชน ได้ชอป ชิม ชิลล์ ระหว่างวันที่ 26 มิ.ย.-2 ก.ค.2567 เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้า GI และสร้างการรับรู้สินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น
         
สำหรับสินค้า GI ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา คัดเลือกมาจำหน่าย เช่น ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ทุเรียนหลงลับแล (จ.อุตรดิตถ์) พริกไทยจันท์ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง (จ.นครศรีธรรมราช) มะขามหวานเพชรบูรณ์ หอยนางรมสุราษฎร์ธานี ไข่เค็มไชยา (จ.สุราษฎร์ธานี) ชาเชียงรายกาแฟเทพเสด็จ (จ.เชียงใหม่) ผ้าหม้อห้อมแพร่ ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ขนมหม้อแกงเมืองเพชร มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว และศิลาดลเชียงใหม่   
         


ทั้งนี้ นอกจากการจำหน่ายสินค้า GI ภายในงานแล้ว ยังมีการไลฟ์สดประชาสัมพันธ์ให้กับผู้สนใจได้ชม และเลือกซื้อสินค้า โดยเชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต เชฟชื่อดังและพิธีกรรายการ Food Work และมีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง เช่น ตรี ชัยณรงค์ หญิง ธิติกานต์ เต๋า ภูศิลป์ ลำยอง หนองหินห่าว เป็นต้น
         
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง มาช่วยกันอุดหนุน และเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการสินค้า GI มีแรงที่จะผลิตสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการจัดงานสัญจรครั้งต่อไป กำหนดไว้ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 11-17 ก.ค.2567 ขอให้พี่น้องชาว จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง เตรียมตัวไว้ได้เลย”นายนภินทรกล่าว
         
ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยสินค้า GI ซึ่งเป็นหนึ่งในซอฟต์ พาวเวอร์ ที่สำคัญของประเทศ เพราะมีส่วนช่วยในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์ชุมชน โดยมีการดำเนินการในทุกมิติ ทั้งการขึ้นทะเบียนสินค้า GI ซึ่งปัจจุบันขึ้นทะเบียน GI แล้ว 205 สินค้า สร้างมูลค่ากว่า 71,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งมีระบบการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ตลอดจนมีการส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้า GI ไทย โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ GI ในชุมชน นำมาสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น